ASTV ผู้จัดการ - ผบช.น.แจงล่าตัวมือระเบิดคืบหน้าพอสมควร ด้าน “ชาญเทพ” ระบุเหตุระเบิดที่สาทร คนร้ายวางแผนล่วงหน้าหลายวัน แต่ยังสรุปประเด็นไม่ได้ ส่วนมือบึ้มศาลพระพรหม กับชายเสื้อขาวไม่น่าเกี่ยวข้องกัน พร้อมเผย ตร.ทราบเลขทะเบียนตุ๊กตุ๊กพาผู้ต้องสงสัยส่งแยกราชประสงค์แล้ว คาดได้ตัวมาสอบสวนภายในวันนี้ เปิดยุทธการ “ปิดเมืองค้นรังโจร” เอกซเรย์ กทม. 21-23 ส.ค. หาข้อมูลบุคคลตามหมายจับ
วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายลักลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับคนร้ายตามภาพสเกตช์เรียบร้อยแล้ว ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และยังไม่พบเบาะแสของบุคคลในหมายจับ ยืนยันว่าขั้นตอนการดำเนินการคืบหน้าไปมากพอสมควรแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายชาวเยอรมัน และชาวฝรั่งเศสมาสอบสวนนั้น พบว่าทั้งสองบุคคลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงปล่อยตัวไป ส่วนคนขับรถสามล้อที่รับส่งคนร้ายในช่วงที่ก่อเหตุนั้นจะต้องไปสอบถามข้อมูลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
ด้าน พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.กล่าวว่า กรณีมีคนร้ายปาระเบิดมาจากบนสะพาน บริเวณท่าเรือสาทร ใต้สะพานตากสินนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดไปป์บอมบ์ แต่ยังไม่สามารถระบุชนิดได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดระเบิดนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างระเบิดที่ท่าเรือสาทร และศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสัมพันธ์กัน ส่วนวิธีการของคนร้ายที่ปาระเบิดลงมานั้นยังไม่สันนิษฐานว่าใช้ยานพาหนะใดก่อเหตุ ถึงแม้ว่ากล้องวงจรปิดจะมีการติดตั้งทุกจุด แต่ในบริเวณจุดดังกล่าวกล้องไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้เนื่องจากดูจากภาพจากกล้องแล้วไม่มีความละเอียด จึงให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกลับไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวอีกว่า อาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายมาสังเกตการณ์ล่วงหน้าหลายวันก่อนลงมือก่อเหตุ ขณะนี้ยังไม่สรุปว่าวัตถุระเบิดมีการวางไว้ล่วงหน้า หรือปาลงมาจากสะพาน ในส่วนเส้นทางคนร้ายลงมือก่อเหตุระเบิดบริเวณศาลพระพรหมนั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบแล้วว่าบริเวณซอยสีลม 9 เป็นจุดสุดท้ายที่คนร้ายใช้หลบหนี ขณะนี้กำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดกันอยู่ ตอนนี้ตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปบางส่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ยังคงหลบหนีอยู่ภายในประเทศไทยหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากทาง ตม.รายงานมาว่ายังไม่พบกลุ่มผู้ต้องสงสัย แต่ที่ทาง ตม.เรียกมาตรวจสอบนั้นปรากฏว่ายังไม่เข้าข่ายผู้กระทำความผิด ส่วนกรณีบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าชายเสื้อเหลือง และเสื้อขาวจะร่วมมือกันนั้น ตนคิดว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ยังต้องรอตรวจสอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากที่คนร้ายได้เดินทางไปที่ศาลพระพรหมด้วยรถสามล้อรับจ้างนั้น ขณะนี้สามารถทราบถึงทะเบียนรถคันดังกล่าวแล้วซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามตัวมาสอบสวน คาดว่าในวันนี้คงจะได้ตัวมาสอบสวนเพื่อหาข้อมูลเบาะเเสคนร้ายต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ห้องประชุมปารุสกวัน 2 พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. ประชุมชุดสืบสวนสอบสวน 88 สน. จัดการความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ยุทธการ “ปิดเมือง ค้นรังโจร” เอกซเรย์พื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร เพื่อวางแนวทางป้องกันเหตุในพื้นที่ โดยจะมีการตั้งด่านความมั่นคง เฝ้าระวังป้องกันพื้นที่ทุกตารางนิ้ว เอกซเรย์พื้นที่โดยเฉพาะบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอาศัยอยู่ และอพาร์ตเมนต์ รวมถึงโรงแรมต่างๆ เพื่อหาข้อมูลบุคคลตามหมายจับซึ่งกำหนดระยะเวลาให้ดำเนินการภายใน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-23 ส.ค. และปิดล้อมตรวจค้นแหล่งเป้าหมาย โดยกำหนดให้ทุกกองบังคับการประชุมวางแผนแนวทางในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. และรายงานผลกลับมายัง บช.น.ต่อไป