ผบ.ตร.ประชุมชุดคลี่คลายคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และสะพานตากสิน ตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท เตรียมเช็กกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบพระพรหมเอราวัณ 3 วันหาเบาะแสคนร้าย เชื่อหนุ่มเสื้อยืดเหลืองไม่ได้ทำคนเดียว แต่เป็นขบวนการดิสเครดิตรัฐบาล และอาจโยงระเบิดพารากอน เตรียมเสนอหมายจับภายใน 1-2 วันนี้
วันนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ฝ่ายสืบสวน บช.น. และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีระเบิดราชประสงค์ บริเวณรั้วพระพรหมเอราวัณ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมหารือติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดี การติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ และสะพานตากสิน ซึ่งได้นำคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มาชี้แจงสั่งการให้ ผบช.น. และผู้บังคับบัญชาท่านอื่นๆ นำไปดำเนินการ หลักๆ โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะเกรงว่าประชาชนและชาวต่างชาติจะตื่นตระหนก และมีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ต้องการมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใน บช.น., บช.ก., ภ.1, ภ.2, ภ.7, ตชด., ตม. และสันติบาล ทำงานร่วมมือกับฝ่ายทหารในเรื่องการดูแลสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น สถานทูต สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากซึ่งจะต้องเข้าไปดูอย่างอย่างใกล้ชิด ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และที่สำคัญต้องวางมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะสื่อมวลชนที่จะช่วยเหลือในการที่จะเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและช่วยสื่อสารไปถึงประชาชนที่มีข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับคนร้ายเพื่อที่จะนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ ส่วนช่องทางการแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางสายด่วน 1599 หรือ 191 สามารถแจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายได้จะมีรางวัลนำจับให้ 1,000,000 บาท เพราะเชื่อว่าหากมีการจับกุมคนร้ายได้จริงอาจจะได้มากกว่า 1 ล้านบาท เพราะโดยปกติเวลามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมักจะมีคนที่มีจิตใจรักชาติ ไม่อยากให้เกิดสิ่งนี้กับประเทศไทย ก็จะเอาเงินมาบริจาค ถ้าจับได้จริงๆ ถือว่า 1 ล้านบาทยังน้อยไป อาจจะได้มากกว่า
ผู้สื่ข่าวถามว่า ชายที่ใส่เสื้อสีเหลืองที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด เป็นชาวต่างชาติหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ปักใจประเด็นชายใส่เสื้อสีเหลืองที่ไปอยู่บริเวณศาลพระพรหมว่าเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ จะต้องให้ความสำคัญและไปตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพราะตนไม่เชื่อว่าชายเสื้อสีเหลืองจะลงมือกระทำเพียงคนเดียว ตนไม่ได้ปักใจเชื่อว่าชายเสื้อเหลืองจะเป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่ใครก็ตามที่เข้าไปอยู่บริเวณศาลพระพรหมในห้วงเวลานั้น หรือก่อนห้วงเวลานั้นจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไป 1-3 วัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะคนร้ายเวลาจะลงมือกระทำความผิดเขาต้องมีการวางแผนมาดูสถานที่ เราจะต้องนำหลักฐานดังกล่าวมาประกอบการสอบสวน เพราะสมัยนี้คนสามารถปลอมแปลงใบหน้าได้อย่างดี เนื่องจากมีเทคโนโลยีในการที่จะปลอมแปลงใบหน้าได้ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนสักระยะหนึ่ง ถามว่าคนร้ายยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเป็นเรื่องในสำนวน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้กำหนดกลุ่มคนร้ายว่าเป็นกลุ่มใครบ้าง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังมองในภาพรวมว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานซึ่งยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ทุกประเด็นยังให้ความสำคัญเท่าเทียมกันหมด
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การวางระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ และบริเวณสะพานสาทร คนร้ายมุ่งเน้นที่จะทำร้ายคนจีนหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อขนาดนั้น เพราะว่าผู้ที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตไม่ได้มีเฉพาะชาวจีน คนไทยเสียชีวิตมากกว่า ชาวจีนเสียชีวิตแค่ 2 คน จะไปบอกว่าเขามุ่งหวังเอาชีวิตคนจีนนั้นไม่น่าจะใช่ แต่การลงมือกระทำครั้งนี้เป็นการมุ่งหวังเอาชีวิตแน่นอน เพราะว่าเวลาและสถานที่ก่อเหตุบ่งบอก ส่วนสะเก็ดระเบิดที่เกิดขึ้นใน 2 ที่จะเชื่อมโยงเหตุระเบิดในตะวันออกกลางหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ฐานข้อมูลทุกอย่าง และยังไม่ให้น้ำหนักกับกรณีใดกรณีหนึ่งเป็นพิเศษ ส่วนการประกอบระเบิดยังไม่ชี้ชัดว่าทำในประเทศไทย อยู่ระหว่างตรวจสอบเพราะว่าผลทางเคมียังไม่ออกมา วันนี้ได้สอบถามไปยังอีโอดีบอกว่าผลยังไม่ออก แต่การจะบอกว่าวัตถุระเบิด ดินปืน รูปแบบการผลิตต่างๆ นั้น ในปัจจุบันมีการเลียนแบบ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในภาพวงจรปิดชายเสื้อสีเหลืองได้วางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ ภาพหลังจากนั้นมีการระเบิดจากกระเป๋าเป้ใบนั้นหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เท่าที่ดูสื่อเห็นอย่างไร ตำรวจก็เห็นอย่างนั้นแต่ถ้าเป็นข้อมูลในเชิงลึกขออนุญาตไม่ตอบ ส่วนกรณีนักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกว่าบอลแบริ่งมีใช้ครั้งแรกในประเทศไทยนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่ใช่ เพราะปัจจุบันมีการเลียนแบบกันได้ในอินเทอร์เน็ต อย่าไปบอกว่าใช้แบบนี้จะเป็นระเบิดที่ใช้ในพื้นที่ใด ทั้งนี้การที่พยายามโยงไปเป็นเรื่องของประเด็นการเมือง ยืนยันว่ายังไม่มีใครพูดเรื่องการแบ่งสี เพราะตอนนี้ประเทศไทยไม่มีการแบ่งสี
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พฤติการณ์ของชายสวมเสื้อสีเหลืองเพียงพอที่จะสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับได้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า อยู่ที่พนักงานสอบสวน หากพยานหลักฐานเพียงพอศาลก็จะอนุมัติหมายจับ
ส่วนกรณีมีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยโพสต์ข้อความเตือนก่อนที่จะมีเหตุระเบิดนั้น เบื้องต้นชายคนดังกล่าวได้มารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนได้ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้าการกระทำนั้นมีความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนไปยังประชาชนที่ชอบใช้โซเชียลมีเดียให้เลิกโพสต์ข้อความที่ทำให้ประชาชนตกใจและเป็นข้อความเป็นเท็จเพราะตอนนี้ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายมาก โดยตนได้สั่งการในที่ประชุมวันนี้ว่าให้ ปอท. หรือพนักงานสอบสวนตรวจสอบว่าบุคคลใดที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ขอให้เลิกกระทำ เพราะหากเข้าความผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ก็จะต้องถูกดำเนินคดี ตนอยากให้มีการดำเนินคดี 5-10 คนเป็นกรณีตัวอย่างจะได้มีความเข็ดหลาบ เมื่อถูกดำเนินคดีขึ้นมายอมความไม่ได้ จะมาโทษว่าตำรวจรุนแรงหรือทำเกินกว่าเหตุมันก็ไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงว่าคนร้ายจะถูกฆ่าตัดตอน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้นเพราะการก่อเหตุครั้งนี้ไม่น่ากระทำได้คนเดียว และมีการช่วยเหลือสนับสนุนและเป็นคนที่รู้เส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี เพราะว่าเรื่องแบบนี้ทำคนเดียวไม่ได้ เพราะฉะนั้นหลักฐานที่ตำรวจจะต้องนำมาประกอบในคดี อย่างที่บอกว่ามีผู้ต้องสงสัยหลายคน ทั้งนี้ตนยังไม่ได้พูดว่าคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ แต่เชื่อว่าต้องมีคนไทยและทำกันเป็นขบวนการ และทำขึ้นเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ต้องการให้ประเทศเกิดความเสียหาย ไม่ได้รับความไว้วางใจจากต่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติหวาดกลัวไม่กล้าเข้ามาในประเทศไทย จนทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหาย สิ่งแรกที่กระทบคือระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยว ประเทศไทยจะเสียหายในเรื่องธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเนื่องจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีกำลังไม่เพียงพอหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ อย่างที่เคยบอกว่าคนจ้องกระทำมีโอกาสมากกว่าคนระวัง เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายตั้งใจทำงานมาโดยตลอด ไม่มีหน่วยไหนไม่ทำ ถ้าพูดแบบนี้อาจทำให้ผู้ปฏิบัติเสียกำลังใจ ถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความกังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีสวมรอยสร้างสถานการณ์ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กังวลหรือไม่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องทำงาน และต้องรับผิดชอบจะต้องทำทุกวิถีทางให้จับคนร้ายได้ และสร้างมาตรการให้ประชาชนเห็นว่าตำรวจสามารถดูแลปกป้องคุ้มครองและความปลอดภัยได้
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คนร้ายที่ก่อเหตุอาจจะมีความเชื่อมโยงกับการวางระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าพารากอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า อาจจะเป็นไปได้เพราะรูปแบบหรือวัสดุที่ใช้ในการก่อเหตุเหมือนกัน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนกำลังจะออกหนังสือคำสั่งให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นศูนย์ปฏิบัติการ ให้ ผบช.น.เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ และมีกองบัญชาการสอบสวนกลาง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสันติบาล ตำรวจภูธร 1, 2, 7 และ ตชด. โดยให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ประวุฒิ เป็นผู้กำกับดูแลคลี่คลายคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในระยะเวลา 1-2 วันนี้ คาดว่าจะออกหมายจับผู้ต้องหาตามภาพสเกตช์ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ทำให้มีการระเบิด ตามที่พยานให้การไว้ ส่วนที่ว่าหลังก่อเหตุคนร้ายหลบไปอยู่ที่เกสต์เฮาส์นั้นไม่เป็นความจริง และหลบหนีไปที่สนามบินออกนอกประเทศเลยนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ส่วนกรณีคนร้ายปาระเบิดจากบนสะพานตากสินนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุแล้ว พบว่ามีตรงด้านล่างและตรงสะพานเท่านั้น ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง คาดว่ากลุ่มที่ระเบิดราชประสงค์ กับกลุ่มที่ปาระเบิดบนสะพานตากสินนั้น คาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากว่ามีความเชื่อมโยงในเหตุการณ์ต่างๆ หรือชนิดระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ
