xs
xsm
sm
md
lg

“อ๊อด” ยันไม่เสียหน้า ยธ.เป็นเจ้าภาพถอดยศ “แม้ว” ย้ำต้องยึดระเบียบ สตช.47 เป็นหลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.
ผบ.ตร.ย้ำไม่เสียหน้า นายกฯ โยนเรื่องถอดยศ “แม้ว” ให้ ยธ.ดำเนินการ เชื่อจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ตอบสังคมได้ในวันนี้ แต่ยังย้ำการถอดยศนั้นต้องถือตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศ พ.ศ. 2547

วันนี้ (11 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการตามขั้นตอนยึดหลักกฎหมายความรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซึ่งวันนี้จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กระทรวงยุติธรรม ที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานนั้น เชื่อว่าในที่ประชุมมีทั้งผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย ส่วนผลการประชุมที่กระทรวงยุติธรรมจะออกมาอย่างไรก็คาดว่าจะมีผลสรุปภายในวันนี้ และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็พร้อมจะปฏิบัติตาม และไม่ได้กำชับอะไรกับตัวแทน ตร.ที่จะไปเข้าร่วมประชุมในวันนี้ ยืนยันให้อำนาจของตัวแทนในการนำเสนอได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตนจะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.วันสุดท้าย คือ วันที่ 30 ก.ย. หากผลสรุปออกมาก่อนหน้าตนเกษียณก็เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งและยืนยันตนจะปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถจนถึงวันสุดท้ายของการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากผลสรุปออกมาหลังจากตน สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผบ.ตร.คนต่อไปที่จะต้องการดำเนินการต่อ

พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า การดำเนินการถอดยศนั้นต้องถือตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจการถอดยศ พ.ศ. 2547 ซึ่งทางสำนักงานกำลังพล (สกพ.) มีความต้องการให้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระเบียบ ตร.ว่าด้วยถอดยศว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนเรื่องกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจแล้วจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะในอดีตที่ผ่านมาทางสำนักงานกำลังพลก็ได้มีการไปศึกษาว่าการถอดยศจะดำเนินการกับข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดขณะรับราชการ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงต้องส่งหนังสือเพื่อหารือกับทางกฤษฎีกาว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ซึ่งผ่านมากว่า 1 เดือน แล้วก็ยังไม่ได้รับคำตอบ และที่ผ่านมาได้เคยมีการปรึกษาหารือกับผู้ที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายในหลายคนก็ได้คำตอบไปในทางเดียวกันว่าไม่ควรจะเร่งรีบควรจะศึกษาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจมิฉะนั้นจะเกิดผลเสียตามมาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ถอดยศ พ.ต.ท ทักษิณ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่ใช่ความรับผิดชอบของตน แต่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบนั้นตนรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ส่วนที่มีการมองว่าตนยื้อเวลานั้นยืนยันว่าไม่ใช่ ยืนยันว่าตนปฏิบัติมาโดยตลอดและไม่จำเป็นต้องรายงานให้ใครทราบนอกจากผู้บังคับบัญชาคือนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลสรุปจะออกมาแล้วไม่ถูกใจกลุ่มคนที่คิดต่างจนอาจจะสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองนั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า หากผลออกมาเช่นไรก็ต้องยอมรับไปตามกรอบของกฎหมาย เนื่องจากการถอดยศครั้งนี้ได้ผ่านการกลั่นกรองจากหลายฝ่ายหลายหน่วยงาน และตนเชื่อว่าผลที่ออกมาจะสามารถตอบคำถามของสังคมได้

เมื่อถามว่าเรื่องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยมีอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเคยเสนอเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วนั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการเสนอเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่ยืนยันว่าตนได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเต็มที่แล้ว

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในส่วนของการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการได้เฉพาะเครื่องราชฯ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้มาขณะยังเป็นข้าราชการตำรวจอยู่เท่านั้น ในส่วนที่ออกจากราชการตำรวจแล้วไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองในส่วนนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการต่อ ตนทำได้เฉพาะกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนี้ตนไม่สามารถกระทำได้

“ตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมพิจารณานั้น ผมก็รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น ไม่ถือเป็นการเสียหน้าหรือเสียใจแต่อย่างใด ยิ่งทางกระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้าที่กฎหมายหลายหน่วยงานเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้ก็ยิ่งสร้างความรอบคอบมากยิ่งขึ้น” ผบ.ตร.ระบุ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น