ตำรวจกองปราบปรามตามรวบมือปืนรับจ้างชื่อดังลำดับที่ 69 ตามบัญชีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังก่อคดีปล้น-ฆ่าโชกโชน เคยยิงน้องอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยโคราช
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.สุทินทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วสุ แสงสุกใส รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ณพรุจ ราชคาม สว.กก.2บก.ป.แถลงผลจับกุม นายสมชาย ศรีฤดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 1 ต.ท่าบุญมีกิ่ง อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี มือปืนลำดับที่ 69 ตามบัญชี 75 มือปืนเมืองไทย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2554 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลรวม 4 หมายจับ ภายหลังก่อคดีปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์มาอย่างโชกโชน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 1141/7 หมู่ 1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์ก่อเหตุอุกฉกรรจ์หลายคดีและยังคงหลบหนีหมายจับศาลถึง 4 หมาย โดยเมื่อปี 2549 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกอีก 4 คน ประกอบด้วย นายสุชาติ หรือชาติ ผิวละออง, นายสมศักดิ์ หรืออ้วน อุ้มบุญ ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว, นายสาคร หรือเสืออ้อ ขาวพันธ์ และนายเอกราช หรือเอก เหล่าอ่อน ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ก่อเหตุปล้นฆ่านายทรงศักดิ์ พิทยาภรณ์ นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และเป็นน้องชายของนายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย ระหว่างเดินทางกลับภายหลังเบิกเงินจากธนาคารกรุงไทย สาขาด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จำนวน 1,118,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้จะร่วมกับพวกออกปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ที่มีฐานะดีโดยเลือกลงมือในขณะที่เหยื่อเดินทางไปถอนเงินสดจากธนาคาร มีการวางแผนติดตามสะกดรอยไปจนสบโอกาสก็จะลงมือก่อเหตุ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อคดีลักษณะนี้มาแล้วประมาณ 7-8 ครั้ง ในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยกลุ่มผู้ต้องหามีนายสุชาติซึ่งถูกวิสามัญฆาตกรรมไปแล้วเป็นหัวหน้าแก๊งและมือปืน
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์จริงซึ่งตนมีหน้าที่เป็นคนขับรถรับส่งนายสาคร หรือเสืออ้อ โดยได้รับเงินส่วนแบ่งในการลงมือก่อเหตุแต่ละครั้งเป็นจำนวน 40,000-60,000 บาทก่อนจะหลบหนีคดีมาทำงานเป็นช่างทำสเตนเลสที่ร้านรุ่งอรุณ ใน จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าวสำหรับผู้ต้องหารายนีมีหมายจับติดตัวรวม 4 หมายจับ ประกอบด้วย 1. หมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 640/2549 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 ข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีและใช้อาวุธปืนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ภายหลังร่วมกับพวกรวม 5 คนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายมาโนช แก้วเขียว เสี่ยเจ้าของท่าข้าวใน อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิตแล้วชิงเงินสด 200,000 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2549
2. หมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 1080/2549 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่น มีและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 3. หมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 758/2549 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2549 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีและใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรหลังจากร่วมกับพวกก่อเหตุยิงนายคัชพงษ์ พรรณพีระชาติ เสี่ยเจ้าของโรงสีรายใหญ่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จนเสียชีวิต ก่อนชิงเงินสด 1,400,000 บาท แล้วหลบหนีคดี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2549 4. หมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.1409/2550 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2550 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธปืน และพกพาอาวุธปืนในในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550 ผู้ต้องหากับพวก ได้ก่อเหตุปล้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน กอ 1602 ระยอง ของ น.ส.เสาวลักษณ์ วิริยะเลิศ แล้วหลบหนีคดี ซึ่งชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
