xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของปั๊มน้ำมันโวย พนง.ถูกกลุ่มแว้นรุมทำร้ายนานนับเดือนคดีไม่คืบ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.ต.อ.สงคราม เสงี่ยมพักตร์
ฉะเชิงเทรา - เจ้าของสถานีบริการน้ำมันโวยตำรวจพนมสารคาม หลังคดีพนักงานเติมน้ำมันถูกกลุ่มแว้นรุมทำร้ายนานเกือบหนึ่งเดือนเต็มคดีไม่คืบหน้า ขณะคดี สวป.สภ.พนมสารคาม ถูกแว้นรุมกระทืบจนน่วม กลับสามารถติดตามรวบได้อย่างทันควัน ทั้งที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดเช่นเดียวกัน และเหตุเกิดห่างกันแค่เพียง 12 วัน

วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. นายญาณินพิทักษ์ บุญเทพปสันน์ อายุ 42 ปี เจ้าของบริษัทสุทักษ์ปิโตรเลียม จำกัด ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน PT ตั้งอยู่เลขที่ 51/2 ม.6 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจรบ้านนาน้อย (แยกเบส) ถนนสาย 331 สัตหีบ-กบินทร์บุรี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า

เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.58 เวลาประมาณ 22.30 น. ได้เกิดเหตุมีกลุ่มแก๊งวัยรุ่น หรือเด็กแว้น ขับขี่รถจักยานยนต์เข้ามาภายในปั๊มน้ำมันของตน จำนวนประมาณ 30 คัน ได้ก่อเหตุขว้างปาหมวกกันน็อกใส่พนักงานเติมน้ำมัน และตรงเข้ารุมชกต่อยทำร้ายเด็กปั๊ม จำนวน 3 คน จนได้รับบาดเจ็บเป็นรอยฟกช้ำบวมเขียวขึ้นตามใบหน้า ศีรษะ และร่างกายหลายแห่ง เพียงเพราะไม่พอใจที่กลุ่มคนร้ายกล่าวหาว่าเด็กปั๊มมองหน้า

หลังจากตนทราบเหตุในภายหลัง จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.บุญเลิศ มุกดาสนิท พนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม ในวันที่ 25 เม.ย.58 เวลา 11.00 น. แต่จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ทั้งที่เป็นคดีในลักษณะทำนองคล้ายกันกับคดีที่กลุ่มเด็กแว้นก่อเหตุทำร้ายร่างกาย พ.ต.ท.กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.สภ.พนมสารคาม เมื่อวันที่ 11 เม.ย.58 ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังเข้าไปทำการตรวจยึดรถ จยย.ผิดกฎหมายเพียงลำพังจากภายในปั๊มน้ำมันเช่นเดียวกัน

ทั้งที่เหตุการณ์เกิดขึ้นห่างกันเพียงแค่ 12 วัน และเวลาเกิดเหตุยังใกล้เคียงกันอีกด้วย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกันก็คือ คดีเด็กแว้นทำร้าย สวป. เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียว แต่คดีที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปกลับยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้

จากทั้ง 2 คดีนี้จึงสะท้อนให้เห็นได้ถึงความแตกต่างกันในการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างชัดเจน ระหว่างเหตุร้ายที่เกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเหตุร้ายที่เกิดขึ้นต่อประชาชนทั่วไป ที่เชื่อว่าอีกไม่นานเรื่องก็อาจจะเงียบหายไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนมองว่ากลุ่มเด็กแว้นเหล่านี้เป็นภัยต่อสังคม คนสุจริตที่ทำมาหากินตามปกติ อยู่ๆ ก็มีกลุ่มคนเข้ามารุมทำร้าย โดยที่ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองนั้นไม่สามารถจัดการ หรือจับตัวมาลงโทษ ดำเนินคดีอะไรได้เลย สภาพสังคม และความเป็นอยู่ของคนปกติทั่วไปจึงไม่มีความปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก.สภ.พนมสารคาม กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าวนี้ เป็นเพียงคดีชกต่อยทำร้ายร่างกายกันธรรมดา และภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นยังมีความแตกต่างกัน เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดในคดีที่ สวป. สภ.พนมสารคาม ที่ถูกทำร้ายนั้นเป็นภาพที่ได้จากกล้อง CCTV ที่มีคุณภาพสูง มีความชัดเจนกว่า

ส่วนภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดภายในปั๊ม PT นั้นเป็นภาพที่มีคุณภาพต่ำกว่า มุมภาพไกลกว่า จึงมองเห็นหน้าคนร้าย หรือกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ไม่ชัดเจน เป็นภาพที่เบลอจึงไม่อยากให้นำเอาทั้ง 2 คดีนี้มารวมเปรียบเทียบกัน และอยากเสนอแนะให้ทางเจ้าของปั๊มน้ำมัน PT เปลี่ยนกล้องใหม่ให้เป็นกล้อง CCTV ที่มีคุณภาพความชัดเจนมากกว่านี้ เพื่อเป็นการป้องกันทรัพย์สินของทางปั๊มเอง และป้องกันเหตุที่อาจมีความร้ายแรงมากกว่า เช่น คดีปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง

ส่วนมาตรการต่อไปนี้ได้รับการประสานจากทางอำเภอพนมสารคามว่า หากพบเห็น หรือทราบข่าวว่าจะมีกลุ่มเด็กแว้นจับกลุ่มเตรียมที่จะแข่งขันรถ จยย.กัน ให้ขอกำลัง จนท. อส. จากทาง อ.พนมสารคาม มาเสริมได้หากมีกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ

ขณะเดียวกัน ทาง พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ยังได้สั่งกำชับไว้ด้วยว่า หากกำลังมีไม่เพียงพอให้รายงานไปยัง ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่จากตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) มาเสริมได้อีก หรือให้ทำการสนธิกำลังกันระหว่าง จนท.ฝ่ายปกครอง ทหาร และฝ่ายตำรวจทำงานร่วมกัน


นายญาณินพิทักษ์ บุญเทพปสันน์


กำลังโหลดความคิดเห็น