นราธิวาส - กำลัง 3 ฝ่ายตากใบ แจงถูกเหมารวมเกิดคดีความมั่นคงติดอันดับต้นๆ ของชายแดนใต้ บางคดีเป็นเรื่องส่วนตัว
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.ที่อาคารที่ว่าการอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส นายชยุตม์ ชูดวง ปลัดอาวุโส อ.ตากใบ พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ตากใบ น.ต.ยี้พญา โยวะผุย รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเปิดแถลงข่าวคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ตากใบ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.58 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน พบว่า ที่คดีอุกฉกรรจ์เกิดขึ้นทั้งหมด 6 คดี โดยแยกเป็นคดีความมั่นคง 2 คดี และคดียาเสพติด กับความขัดแย้งส่วนตัว 4 คดี ซึ่งอำเภอตากใบเป็น 1 ใน 13 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากภาพลบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถูกเหมารวมในปีนี้มีคดีความมั่นคงเกิดขึ้นติดอันดับต้นๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนขยายผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไปโดยปริยาย ทั้งๆ ในที่อดีตอำเภอตากใบ เคยได้รับสมญานามว่า เมืองอู่ข้าวอู่น้ำดินแดนท่องเที่ยว
โดย พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง เปิดเผยว่า 1 ใน 4 คดีที่ยกตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์ ซึ่งคนร้ายก่อเหตุอุกอาจมาก ทุกคนคิดว่าเป็นคดีความมั่นคง แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ คือ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.58 ที่ผ่านมา นายมาโซ เปาะนิ ชาว อ.สุไหงโก-ลก ขับรถยนต์กระบะ ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.ประกบยิงใส่รถยนต์เก๋งที่ นายอับดุลเลาะ ยาการียา เป็นคนขับ แต่กระสุนพลาดเป้าไปถูก นายธีระยุทธ จันทรัมพร และนางไลลา สะตาปอ ที่นั่งโดยสารมาด้วยได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในช่วงกลางวันแสกๆ ที่บริเวณสามแยกตากใบ ม.4 ต.เจ๊ะเห ต่อมา นายมาโซ ไม่สามารถทนความกดดันของเจ้าหน้าที่จึงได้ขอเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 23 เม.ย.58 ที่ผ่านมา และสารภาพว่าที่ก่อเหตุในครั้งนั้นเพราะต้องการยิงนายอับดุลเลาะ ที่เป็นหนี้ตน 300,000 บาท แต่ไม่ยอมใช้
ด้าน นายชยุตม์ ชูดวง ปลัดอาวุโส อ.ตากใบ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มันไม่ใช่คดีความมั่นคงเสียทั้งหมด จึงอยากให้ทุกคนทุกฝ่ายรวมถึงเจ้าหน้าที่อย่าได้รีบเร่งสรุป แต่ขอให้ช่วยกันทำงานเพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นภาพลักษณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะไม่สามารถถูกลบออกจากความทรงจำของประชาชนทั้งประเทศได้ แถมยังเป็นการซ้ำเติม และตอกย้ำให้นักลงทุนเกิดความขยาด