ตรัง - ลูกชายคนโต “สุรินทร์ โตทับเที่ยง” แจงเหตุผลที่เข้ามาดูแลธุรกิจในเครือเพื่อหวังฟื้นฟูทุกอย่างให้ดีขึ้น ไม่ได้หวังเข้ามาครอบครองเสียเอง จนเกิดกระแสข่าวไม่ให้ครอบครัวใช้นามสกุลอีกต่อไป
วันนี้ (5 มิ.ย.) จากกรณีที่ นายสุธรรม โตทับเที่ยง ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลโตทับเที่ยง พร้อมด้วย นายสลิล โตทับเที่ยง อดีตประธานหอการค้าจังหวัดตรัง และญาติพี่น้องจำนวนหนึ่ง ได้เข้าพบ นายนันธวัช เจริญวรรณ นายอำเภอเมืองตรัง เพื่อยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการให้ นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในเครือปุ้มปุ้ยปลายิ้ม ประธานกรรมการบริการ กลุ่มโรงแรมธรรมรินทร์ จังหวัดตรัง และยังดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการหอการค้าไทย รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวของ นายสุรินทร์ ใช้นามสกุลโตทับเที่ยง อีกต่อไป
โดยอ้างว่า นายสุรินทร์ กับพวกได้กระทำการอันเป็นปรปักษ์ต่อพี่น้องผู้เกิดร่วมท้องร่วมใช้นามสกุลโตทับเที่ยง ทำให้พี่น้องเดือดร้อน ถูกดูถูกเกลียดชังจากผู้ที่ได้รู้เห็นปัญหาที่ นายสุรินทร์ กับพวกได้ก่อให้เกิดขึ้น ความรัก และความปรองดองในหมู่พี่น้องต้องถูกทำลายมากมายนั้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 นายไกรสิน โตทับเที่ยง บุตรชายของ นายสุรินทร์ ซึ่งเคยลงสมัคร ส.ส.ตรัง ในนามพรรคไทยรักไทย โดยปัจจุบันได้รับมอบหมายให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหาร บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในเครือปุ้มปุ้ยปลายิ้ม และกลุ่มโรงแรมธรรมรินทร์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า
ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ นายสุรินทร์ และครอบครัวจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นให้สาธารณชนได้รับทราบความจริง เพียงแต่ในช่วงนี้ไม่อยากจะขอพูดอะไรมาก เนื่องจากเกรงกระทบต่อการบริหารงานของธุรกิจในเครือ โดยเฉพาะปุ้มปุ้ยปลายิ้ม ซึ่งกำลังอยู่ในการดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังจากที่ทางบริษัทได้เคยประสบปัญหาทางการเงินมาเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน และในปีนี้ นายสุรินทร์ กำลังจะได้รับการพิจารณาจาก ก.ล.ต. ให้กลับเข้ามาบริหารกิจการเองอีกครั้ง นายไกรสิน ยืนยันว่า ที่ผ่านมาคุณพ่อคือ นายสุรินทร์ พยายามเข้ามาแก้ปัญหาธุรกิจในเครือ โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นทั้งต่อผู้ถือหุ้น และผู้ที่ทำการค้าร่วมกัน จนทำให้ธุรกิจในเครือเกิดความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ซึ่งนับเป็นความเสียสละอย่างยิ่ง
โดยที่ทั้งคุณลุงคือ นายสุธรรม คุณอาคือ นายสลิล รวมทั้งญาติพี่น้อง ต่างก็รับรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้มาตลอด แต่กลับถูกมองว่าคุณพ่อ และครอบครัวของตนพยายามเข้ามาครอบครองกิจการทั้งหมดเสียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงอย่างใดเลย จึงอยากให้สังคมได้เห็นใจ และให้ความเป็นธรรมต่อคุณพ่อคือ นายสุรินทร์ และครอบครัวด้วย อย่างไรก็ตาม รายละเอียดทั้งหมดในการเข้ามาบริหารงานธุรกิจในเครือปุ้มปุ้ยปลายิ้ม และธุรกิจอื่นๆ จะมีการแถลงให้รับทราบอย่างชัดเจนอีกครั้งในต้นสัปดาห์หน้า หลังจากที่ได้ดำเนินการต่างๆ ต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว