ผ่าประเด็นร้อน
“อย่างน้อยเราก็ควรดีใจว่าเราสามารถจับกุมได้ และมีการสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือกระทำจริง มีการไปนำรถจากที่นั่นที่นี่มา ดังนั้น สิ่งที่พิจารณาในขณะนี้ คือ ทำไมจึงต้องมีการวางแผนซับซ้อนขนาดนั้นในเรื่องการไปซื้อรถ มีการมอบหมายให้คนไปรับรถในที่ต่างๆ มีการเปลี่ยนสีรถ ซึ่งปกติหากมีการก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะไม่ทำซับซ้อนเช่นนี้ จะเป็นแค่ไปขโมยรถมาแล้วก็ไปก่อเหตุระเบิด จึงต้องไปสอบต่อ เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก และบังเอิญว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสังกัดพรรคการเมืองเก่า เป็นอดีต ส.ส.”
นั่นเป็นคำพูดของ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดที่ชั้นจอดรถของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลสมุย เมื่อค่ำวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา
สื่อถามว่า มีข่าวเกี่ยวโยงกับอดีตนักการเมืองที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ผมก็รู้ตามที่พวกท่านรู้”
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า มีรายงานว่า เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ก็รู้อย่างที่ท่านรู้นั่นแหละ แต่อย่ามาบอกว่าผมพูดก็แล้วกัน”
ถ้าให้สรุปรวมๆ จากคำพูดดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พอใจจะรู้ว่าเวลานี้มีการควบคุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้วบางส่วน และคดีนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจเก่า อดีต สส. เก่า ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร หรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่ได้ปฏิเสธ” ความหมายที่สื่อออกมาก็คือรู้เหมือนกับที่สื่อได้รับรายงานข่าวมา
ดังนั้น แบบนี้ถือว่า “ห้าสิบห้าสิบ” เพราะถ้าไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่อยากพูดเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ก็อาจเฉไฉไปก่อนว่า “ไม่ทราบ” ก็ได้
เมื่อพูดออกมาให้คิดแบบนี้ทำให้ต้องกลับไปย้อนดูคำพูดคำปฏิเสธของอดีต ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้บางคน ก็จะพบว่าล้วนเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ในยุคที่ยังมีพรรคความหวังใหม่ ก่อนที่ ทักษิณ ชินวัตร จะซื้อยกพรรคแล้วควบรวมกิจการกับพรรคไทยรักไทยมันก็พอจะเข้าเค้า
อีกทั้งการวางแผนในการลงมือก่อเหตุก็เหมือนอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุก็คือดูแลมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบพิลึกพิลั่น แต่ก็อย่างว่าแหละความซับซ้อนในลักษณะดังกล่าวอีกมุมหนึ่งมันก็ชวนให้ผิดสังเกต เหมือนกับการจงใจแบบผิดธรรมชาติจนในที่สุดก็สามารถจับทางได้ว่ามาจากไหนและเชื่อมโยงกับใคร
ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้เปิดเผยในเหตุการณ์ลอบวางระเบิดดังกล่าวมีผู้ร่วมก่อเหตุประมาณ 7 - 8 คน มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ระบุว่าจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ และสาเหตุที่ลงมือครั้งนี้ก็เพื่อสร้างสถานการณ์ให้รัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือ ในเรื่องการักษาความสงบด้านความมั่นคง
ดังนั้น หากจะให้สรุปในตอนนี้ก็จะเห็นว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาไว้แล้วบางส่วน จากทั้งหมดมีจำนวนประมาณ 7 - 8 คน อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงแค่ระดับปฏิบัติการ ยังไม่ใช่ตัวการสั่งการในระดับเหนือขึ้นไป อย่างไรก็ดีเมื่อฟังจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็พอจะรู้แล้วว่าคนที่ “รับงาน” มาคือใคร เพียงแต่ว่างานแบบนี้มัน “ตัดตอน” ไม่ให้มาถึงตัว เพราะคงหาหลักฐานมามัดตัวได้ยาก แต่ว่าการพูดแบบไม่ปฏิเสธดังกล่าวข้างต้น มันก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณกลับไปทำนองว่า “รู้นะว่าคิดอะไรอยู่” จะได้ไม่เคลือนไหวโดยพลการ
อย่างไรก็ดี มาถึงตรงนี้เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงมีการจับกุมเพิ่มเติม แต่ก็ต้องทำใจว่าคงเป็นเพียงระดับปฏิบัติการ ไม่ใช่ชั้นสั่งการระดับสูง แต่ในระดับอดีต ส.ส. จากชายแดนใต้บางคนมันก็อาจมีลุ้นเหมือนกัน เพราะพิจารณาตามเส้นทางบางทีก็อาจโยงไปถึงได้เหมือนกัน !!