จากกรณี พ.ต.ท.กฤษ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถูกเด็กวัยรุ่นทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยและกระทืบหน้า จนบาดเจ็บสาหัส หลังจากตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ในปั้มน้ำมัน รุ่งพิทักษ์ หมู่ที่ 4 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทางพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อม ได้สั้งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่กก.2.บก.ป สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ไล่ล่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุในทันที พร้อมอนุญาติให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากใช้อาวุธต่อสู้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 เม.ย. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. ได้เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สามารถจับกุม นายคมสัน จันทร์ศรี หรือ เบิร์ด อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาทำร้าย พ.ต.ท.กฤษ ได้แล้ว หลังจากพยายามหลบหนีเข้าไปแอบอยู่ในป่าละเมาะ ต.หัวหว้า อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี โดยมีการสนธิกำลังกันของ กก.2.บก.ป , สภ.ศรีมโหสถ , สภ.พนมสารคาม และสืบสวนภูธร จ.ฉะเชิงเทรา
ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตำรวจ กล่าวยืนยันว่า กรณีจับกุมนายคมสัน เป็นเรื่องจริง โดยผู้ต้องหาหนีไปยังบ้านของมารดาที่จ.ปราจีนบุรี ภายหลังกำลังเจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านแล้วไม่พบตัว ทางฝ่ายมารดาเห็นว่าหากบุตรชายต่อสู้ตำรวจอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน จึงพาไปจับกุมตัวด้วยตัวเองที่ป่าละเมาะดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.พนมสารคาม และขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ทั้งนี้นายคมสันรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงและเป็นคนเดียวกับที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพราะเมาสุรา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดย พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช. ภ.2 กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา ตามพยานหลักฐานต่อผู้ต้องหา คือ “ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่” เท่านั้น เนื่องจากการสอบถามภรรยาพบประวัติของผู้ต้องหา เพียงแค่เป็นคนที่เมาสุราแล้วมักโมโหร้ายเท่านั้น และไม่พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเคยต้องคดีมาก่อน
นอกจากนี้ผู้ต้องหาเคยถูกเจ้าหน้าที่ชุดนปพ.ตรวจค้นร่างกายเพื่อหายาเสพติด แต่ไม่พบ ผู้ต้องหาจึงรู้สึกโกรธเคืองเจ้าหน้าที่จนจำฝังใจ ที่เวลาออกมาเที่ยวเตร่แล้ว มักจะมีตำรวจเข้ามาตรวจค้นตามร่างกาย และในวันเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้ได้ดื่มสุราจนอยู่ในอาการมึนเมา เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาวุ่นวายกับทางกลุ่มเพื่อนฝูง จึงได้ตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็น สวป.สภ.พนมสารคาม ด้วยการชกต่อย โดยปฏิเสธว่าไม่ได้มีอาวุธ หรือถือของแข็งติดมือก่อนเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 เม.ย. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. ได้เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สามารถจับกุม นายคมสัน จันทร์ศรี หรือ เบิร์ด อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาทำร้าย พ.ต.ท.กฤษ ได้แล้ว หลังจากพยายามหลบหนีเข้าไปแอบอยู่ในป่าละเมาะ ต.หัวหว้า อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี โดยมีการสนธิกำลังกันของ กก.2.บก.ป , สภ.ศรีมโหสถ , สภ.พนมสารคาม และสืบสวนภูธร จ.ฉะเชิงเทรา
ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตำรวจ กล่าวยืนยันว่า กรณีจับกุมนายคมสัน เป็นเรื่องจริง โดยผู้ต้องหาหนีไปยังบ้านของมารดาที่จ.ปราจีนบุรี ภายหลังกำลังเจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านแล้วไม่พบตัว ทางฝ่ายมารดาเห็นว่าหากบุตรชายต่อสู้ตำรวจอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน จึงพาไปจับกุมตัวด้วยตัวเองที่ป่าละเมาะดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.พนมสารคาม และขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ทั้งนี้นายคมสันรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงและเป็นคนเดียวกับที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพราะเมาสุรา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดย พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช. ภ.2 กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา ตามพยานหลักฐานต่อผู้ต้องหา คือ “ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่” เท่านั้น เนื่องจากการสอบถามภรรยาพบประวัติของผู้ต้องหา เพียงแค่เป็นคนที่เมาสุราแล้วมักโมโหร้ายเท่านั้น และไม่พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเคยต้องคดีมาก่อน
นอกจากนี้ผู้ต้องหาเคยถูกเจ้าหน้าที่ชุดนปพ.ตรวจค้นร่างกายเพื่อหายาเสพติด แต่ไม่พบ ผู้ต้องหาจึงรู้สึกโกรธเคืองเจ้าหน้าที่จนจำฝังใจ ที่เวลาออกมาเที่ยวเตร่แล้ว มักจะมีตำรวจเข้ามาตรวจค้นตามร่างกาย และในวันเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้ได้ดื่มสุราจนอยู่ในอาการมึนเมา เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาวุ่นวายกับทางกลุ่มเพื่อนฝูง จึงได้ตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็น สวป.สภ.พนมสารคาม ด้วยการชกต่อย โดยปฏิเสธว่าไม่ได้มีอาวุธ หรือถือของแข็งติดมือก่อนเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด