ตร. เข้าค้นบริษัท “เสี่ยชูวงษ์” ตรวจสอบเอกสารการโอนหุ้น จ่อออกหมายจับผู้ต้องหามากกว่า 2 คน เผยไต๋เป็นบุคคลที่สังคมคาดการณ์ไว้
วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร./โฆษก ตร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. และเจ้าหน้าตำรวจ บก.ปอท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบริษัท แสตนดาร์ด เพอร์ฟอร์แม้นซ์ จำกัด เลขที่ 145 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. เพื่อตรวจสอบหลักฐานประเด็นการซื้อขายหุ้นคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เสี่ยเจ้าของธุรกิจก่อสร้างรายใหญ่ในประเทศ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า การเดินทางเข้ามาในวันนี้ เพื่อเข้าตรวจสอบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) และเอกสารบางส่วน เกี่ยวกับกับการโอนหุ้น ซึ่งต้องนำไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ว่า ผู้ตายมีการเปิดจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) หรือไม่ นอกจากนี้ ในส่วนของเอกสารจากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) นั้น ก็ยังไม่ครบถ้วน โดยต่อไปทางเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนอื่น ๆ เพราะการโอนหุ้นจะต้องมีข้อมูลไฟล์เสียงยืนยัน โดยจากการตรวจสอบขณะนี้พบหลักฐานว่ามีการร่วมกันกระทำการทุจริตจริง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับต่อไป แต่ยังไม่ขอเปิดเผยถึงรายละเอียดว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งการออกหมายจับครั้งนี้มีผู้ต้องหามากกว่า 2 คนแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยว่าเป็นใครบ้าง เนื่องจากต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความชัดเจนมากที่สุดก่อนออกหมายจับ เพื่อป้องกันข้อโต้แย้งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งบอกได้เพียงว่าบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับนั้น เป็นบุคคลที่สังคมคาดการณ์ไว้
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการตรวจสอบเอกสารที่ผู้ตาย ได้มีการเปิดบัญชีกับทางบริษัท หลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 บัญชีนั้น มีมูลค่าอยู่ในหลัก 10 ล้านเท่านั้น ไม่ถึงหลัก 100 ล้านแต่อย่างใด สำหรับกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น เป็นคนละส่วนกับคดีการทุจริตโอนหุ้น ซึ่งหลังจากนี้จะจำลองเหตุการณ์ด้วยหุ่นติดเซ็นเซอร์จำลอง และรถยนต์รุ่นเดียวกัน เพื่อหาร่องรอยบาดแผล และสาเหตุในการเสียชีวิตอีกครั้ง ทั้งนี้ การสอบปากคำเพื่อนร่วมรุ่นของ.พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ได้มีการเรียกสอบปากคำไปแล้วบ้างในบางราย อย่างไรก็ตาม ต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ในการทำงานเพื่อความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน