ASTV ผู้จัดการ - ตำรวจนำหมายศาลเข้าค้น “บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี” หาหลักฐานคดีโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” หลังไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่ส่งเอกสารให้พนักงานสอบสวน ปัดไม่ได้คุมตัวหัวหน้ามาร์เกตติ้วสาว ด้านผู้บริหารงงทำไมตำรวจมาค้น ยันให้ความร่วมมือ เผยลายเซ็นเสี่ยชูวงษ์โอนหุ้นตรวจสอบแล้วตรงกับตอนเปิดพอร์ต
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (7 ส.ค.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. และ สน.ลุมพินี นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบริษัท หลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) บริเวณชั้น 17 ตึกแอททินี ทาวเวอร์ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เพื่อตรวจสอบหลักฐานประเด็นการซื้อขายหุ้นคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เสี่ยเจ้าของธุรกิจก่อสร้างรายใหญ่ในประเทศ
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า บริษัทดังกล่าวบริษัทหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ หลังจากมีการประสานขอความร่วมมือในการให้ข้อมูลเอกสารหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงมีการขอหมายศาลเพื่อเข้าตรวจค้น
สำหรับการเข้าตรวจค้นวันนี้เป็นการเข้าตรวจสอบหาหลักฐานเอกสาร รวมถึงคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ โดยก่อนหน้านี้ที่ทางบริษัทไม่ได้นำหลักฐานต่างๆ มาให้เจ้าหน้าที่เพราะเป็นหลักฐานเอกสารสำคัญที่ต้องใช้หมายศาลในการขอหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดที่ได้ในวันนี้จะนำกลับไปตรวจสอบอีกครั้งแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการคุมตัว น.ส สุรดา เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด หัวหน้าของ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล และเป็นผู้เซ็นอนุมัติการโอนหุ้นให้กับมารดาของ น.ส.อุรชานั้น ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการคุมตัว น.ส.สุรดาแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกเข้ามาให้ปากคำไปแล้ว ในส่วนเบื้องต้นที่พบว่ามีขั้นตอนการโอนหุ้นที่ผิดปกติ แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของนายชูวงษ์หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมจำลองเหตุการณ์ด้วยหุ่นติดเซ็นเซอร์จำลองและรถยนต์รุ่นเดียวกันเพื่อหาร่องรอยบาดแผลและสาเหตุในการเสียชีวิต ซึ่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ
ด้านนายกษิดิศ นุชตาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นว่า ขอยืนยันว่าทางบริษัทให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ไม่เคยที่จะไม่มีการจัดส่งเอกสารใดๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอ จึงไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีข่าวว่าทางบริษัทไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของนายชูวงษ์ทั้งหมดตั้งแต่เปิดพอร์ตลงทุน โดยยังคงยืนยันลายเซ็นที่พบในหลักฐานการโอนหุ้น ทางบริษัทได้มีการเทียบกับลายเซ็นที่นายชูวงษ์เคยเซ็นไว้ตั้งแต่เปิดพอร์ต พบว่าเป็นลายเซ็นของนายชูวงษ์จริง ในส่วนรายละเอียดต่างๆ นอกจากนี้ไม่สามารถปิดเผยรายละเอียดได้
