ASTVผู้จัดการ - “คำรณวิทย์” เดินทางมาให้ปากคำที่กองบัญชาการภูธรภาค 1 กรณีถูกทางการญี่ปุ่นจับข้อหาพกพาอาวุธปืน งดให้สัมภาษณ์กับสื่อ “อำนวย นิ่ม” ยันจากข้อมูลทางการ “คำรณวิทย์” ไม่ได้ลงทะเบียนครอบครองปืนจิ๋วเจ้าปัญหา เผยกำลังส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำพยานถึงญี่ปุ่น
จากกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับการปล่อยตัวหลังพกพาอาวุธขึ้นเครื่องบินที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 12.40 น. วันนี้ (27 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ภ.1) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อเข้าให้ปากคำเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ซึ่งเมื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลงจากรถได้เดินไปไหว้ศาลประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวกันหลายสำนัก รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสมาชิกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เดินทางมาให้กำลังใจและมอบดอกไม้ด้วย ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีท่าทางยิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน หลังจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เรียบร้อยแล้ว ได้เดินออกมาพร้อม พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก่อนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเดินทางขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคลกลับไป โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ด้าน พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด โดยทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะพิจารณาอีกครั้งใน 3 หัวข้อ ข้อแรกคือ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะโอนคดีดังกล่าวไปดำเนินการเอง ส่วนข้อสองคือ ให้ทางพนักงานสอบสวนชุดเดิมทำงาน แต่จะมีคณะทำงานของทางสำนักงานอัยการสูงสุดเข้ามาร่วมด้วย และในข้อสุดท้ายคือ ให้พนักงานสอบสวนชุดเดิมทำงานต่อไป ซึ่งอีก 2 - 3 วัน จะชัดเจนว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร สำหรับวันนี้ทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ แต่ถึงอย่างไรขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากอาจจะเสียรูปคดี ในส่วนของการสอบปากคำพยานขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำไปแล้ว 17 ปาก สำหรับพยานในประเทศญี่ปุ่น เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน จะมีการจัดตั้งชุดพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำพยานที่ประเทศญี่ปุ่นเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปืนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พกพาไปประเทศญี่ปุ่นนั้น สามารถตรวจสอบได้หรือยังว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนหรือไม่ พล.ต.ท.อำนวย ตอบว่า อาวุธปืนที่ทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ครอบครองอยู่มีจำนวน 3 กระบอก ซึ่งไม่มีปืนกระบอกนี้อยู่ และปืนกระบอกนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่ได้เป็นเจ้าของ สำหรับเรื่องที่ว่าปืนจะมีทะเบียนหรือไม่ และปืนกระบอกดังกล่าวมาจากไหนนั้น ตอนนี้ยังขอไม่เปิดถึงรายละเอียด โดยหลังจากนี้จะมีการนัด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เข้ามาสอบปากคำอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้นัดหมายระบุวัน เนื่องจากต้องรอข้อมูลจากประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2558 พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงการตรวจสอบอาวุธปืน North American Arms .22 (นอร์ท อเมริกัน อาร์ม ขนาด 22 มิลลิเมตร) ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ หลังจากที่ ตำรวจญี่ปุ่น ตรวจสอบแล้วไม่พบรายละเอียดการตอกเลขรหัสประจำปืนว่า เบื้องต้นก็ได้รับรายงาน ว่าอาวุธปืนดังกล่าว ไม่พบการขึ้นทะเบียนปืนจริง