xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯปทุมปูด‘แจ๊ด’เอี่ยวโรงงานขยะ โยงขายที่ดิน ‘ธนะศักดิ์’วัดใจนายกฯบินญี่ปุ่นถกช่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผู้ว่าฯปทุม” ท้าสาบาน ตัดพ้อถูกโยงคณะบินทัวร์ญี่ปุ่น ย้ำเป็นคนหนุน ส่งเสริมภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนบริหารจัดการขยะ แต่ถูกNGOตั้งป้อมล้มโครงการ ปูด! “นายทุนบ่อขยะเถื่อน” ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นสนใจที่ดิน ต.เชียงรากใหญ่ โดยมี“คำรณวิทย์” เสนอขายที่ดินให้สร้างโรงงาน เผยบิ๊กแจ๊ดเคยให้สัมภาษณ์ ปืน.22 ที่ถูกจับที่สนามบินนาริตะ ด้ามเป็นพลาสติกพับเก็บได้ เหน็บเข็มขัดเหมือนพกแพ็คลิงค์ ไม่มีใครรู้ ทอท. ยัน ซีทีเอ็กซ์ 26 เครื่องทดสอบก่อนทุกเช้า แม่นยำ 100% เป็นระบบเดียวกับญี่ปุ่น ด้าน‘ธนะศักดิ์’อุบนายกฯไปญี่ปุ่นยกปมบิ๊กแจ๊ดหารือ ”ผบก.ตท. เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่น ไม่กระทบความสัมพันธ์ตร.ทั้งสองประเทศ

วานนี้ (29 มิ.ย.) มีรายงานว่า แฟนเพจคัดค้านโรงไฟฟ้าขนาดกลางชุมชน อบต.เชียงรากใหญ่ จ.ปทุมธานี ได้เผยแพร่ข้อความทางไลน์กลุ่มหนึ่งที่มีนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นสมาชิก และได้เขียนข้อความถึงกลุ่มสิงห์ดำ(ศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) พูดถึงกรณีถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวข้องกับการไปดูงานโรงไฟฟ้ากำจัดขยะที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ในคณะมี พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น.เดินทางไปด้วย โดยระบุว่า มีนักข่าว(ชั่ว)คนหนึ่งเจตนาส่งข่าวว่าผมร่วมคณะไปด้วย (ทั้งๆ ที่มีหลักฐานว่าผมไม่ได้ไป) เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ที่คนที่ในใจมีแต่ความเกลียดชัง แต่งเรื่องเชื่อมโยงว่าผู้ว่าฯปทุมธานีไปร่วมขบวนการ ซึ่งผมกล้าสาบานต่อหน้าพระแก้วมรกต หรือพระรูป ร.5 ได้ ว่า เป็นผู้ว่าปทุมธานีเกือบ 2 ปีด้วยความยากลำบากมาก ที่ได้ขึ้นก็มีคนผลักดันคนเดียว คือ ท่านวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อยู่ในช่วงกีฬาสี ซี่งต้องดูแลไม่ให้คนไทยสองกลุ่มมาฆ่ากันตายที่ปทุมธานี

ทั้งนี้ ปัญหาใหญ่ของจ.ปทุมธานี คือ ขยะมูลฝอย ที่มีปริมาณมากกว่า 1,800 ตันต่อวัน โดยทำตาม Roadmap ด้านขยะมูลฝอยของรัฐบาลเอาขยะตกค้างกว่า 200,000 ตันออก ส่งเสริมการแยกขยะ และข้อสุดท้ายคือ ส่งเสริมภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนบริหารจัดการขยะแบบผสมผสาน โดยนำมาแปลงเป็นพลังงาน ซึ่งมีนักลงทุนสนใจเข้ามาสร้างโรงงานนับสิบบริษัท แต่ก็มี NGO เข้ามาเป็นแกนนำเพื่อล้มโครงการ สายข่าวรายงานมาว่ามีนายทุนบ่อขยะเถื่อนร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นที่ต้องการตรงจุดที่เอกชนสนใจให้การสนับสนุนด้านการเงิน

"ในบรรดาบริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุนมีอยู่บริษัทหนึ่งสนใจที่ดินที่ ต.เชียงรากใหญ่ ซึ่งเคยเป็นของนักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง ตรงนี้ที่ “คุณคำรณวิทย์” เป็นคนกลางเสนอขายที่ดินให้สร้างโรงงาน เขาต้องการลดการต่อต้าน ก็เลยออกเงินให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ไปเห็นกับตา ว่าโรงงานที่นำขยะมาทำพลังงานไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หรือตามที่นักปลุกระดมสร้างภาพให้คิด เขากำลังจะนำชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับที่ดินแปลงนี้ไปอีกทริปหนึ่ง เท่าที่ผมทราบมาครั้งนี้ เขาเลือกไปดูงาน 3 โรงงาน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และกลางกรุงโตเกียว"

เขาเชิญผม แต่ผมไม่ไป เพราะผมเป็นผู้บริหารสูงสุด ถ้าผมไปอาจถูกมองว่าไปเกี่ยวกับเอกชน ตอนแรกก็จะไม่ให้ท่านรองและปลัดจังหวัดไป แต่ลูกน้องเขาอยากเห็น เขาขออนุญาตไป ผมเห็นว่าการดูงานที่ตั้งใจจัดให้ดูในพื้นที่ใกล้แม่น้ำเช่นเมืองปทุมเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อน Roadmap การแก้ไขปัญหาขยะของรัฐบาล จึงให้ไป แต่เนื่องจากรัฐบาลสั่งห้ามไปดูงาน จึงใช้วิธีลาพักผ่อนประจำปี (อย่างที่มักเรียกกันว่าลาพักร้อน) ไปต่างประเทศ ก่อนไปมีกลุ่มต่อต้านมาขู่ว่าไปจะไปร้อง ป.ป.ช.ว่ารับเงินเกิน 3,000 บาท ทั้ง 2 ท่านกลัวเป็นปัญหา จึงจ่ายเงินเอง มีหลักฐานการถอนเงินธนาคารมาจ่ายค่าเครื่องบิน และมีใบเสร็จรับเงินค่าตั๋วออกในวันเดียวกัน

"คุณคำรณวิทย์ไปด้วย ผมสันนิษฐานว่าเขาต้องการใช้ภาวะผู้นำโน้มน้าวพูดให้คนปทุมกลุ่มต่างๆ เข้าใจ ไม่ต่อต้าน และช่วยทำความเข้าใจกลุ่มที่ยังไม่ทราบเรื่องระบบกำจัดขยะระบบปิด เพราะเขาต้องการให้โรงงานสร้างได้ (น่าจะเกี่ยวกับการขายที่ดิน)"

สรุป เรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อน วาระซ่อนเร้น ปลัดจังหวัด กับรองผู้ว่าฯ ที่ไปก็ไม่ใช่ตัวแทนของผู้ว่าฯ ตามที่มั่วโพสต์มั่วแชร์กัน และบริษัทนี้ก็ไม่ใช่ผู้รับเหมากับทางราชการ เขาเป็นบริษัทลงทุนด้านพลังงานในตลาดหลักทรัพย์ครับ ผมก็ไม่ใช่ผู้อนุญาตให้สร้างโรงงาน (เป็นอำนาจของอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมอบต่อมาให้อุตสาหกรรมจังหวัด) คนที่ไปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตอนุมัติ อะไร เพียงภาคเอกชนที่อยากให้สร้างสำเร็จเขาจะหาแนวร่วมเพื่อลดการต่อต้าน

ทอท.ย้ำยันไม่พบอาวุธปืน'บิ๊กแจ๊ด'

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กล่าวยืนยันถึงระบบตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นมาตรฐานสากล โดยแบ่งเป็น2 ส่วน คือ ส่วนของสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบิน ซึ่งกล้องวงจรปิดได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างได้ผ่านการตรวจทุกขั้นตอนตามปกติ และในภาพเอ็กซเรย์กระเป๋าไม่พบอาวุธปืน ซึ่งจุดตรวจสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบินนั้นจะใช้เครื่องและตาของเจ้าหน้าที่ช่วยกันดู แตกต่างจากส่วนที่ 2 ที่เป็นกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องบิน ซึ่งจะตรวจโดยเครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ตรวจวัตถุระเบิดสารตั้งต้นระเบิดหรือพวกกัมตภาพรังสี ไม่ได้ตรวจอาวุธ เป็นมาตรฐานทั่วโลก จะไม่เห็นภาพ ดังนั้น ถ้าผู้โดยสารพกมีดปอกผลไม้ไว้ในกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินจะถือว่าไม่สามารถลงจากห้องโดยสารไปหยิบได้แน่นอน ผู้ก่อการร้ายจะก่อเหตุไม่ได้

ทั้งนี้ หากปืนดังกล่าวโหลดไปใต้ท้องเครื่องบิน ก็คงไม่เห็น จะระบุว่าทอท.บกพร่องไม่ได้ เพราะทุกสนามบินทั่วโลกจะบกพร่องเหมือนกัน ดังนั้นผู้ที่จะพกพาปืนออกไป จะต้องแจ้งขออนุญาตตามขั้นตอน และปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่ยืนยันชัดเจนว่า สามารถตรวจรูปร่างอาวุธได้ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วก่อนเกิดเหตุดังกล่าวคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้มีมติให้ทอท.ศึกษาระบบเทคโนโลยีเครื่องสแกนวัตถุระเบิดใหม่ๆ เพื่อให้ทันสมัยอยู่แล้วส่วนบริษัทที่ดูแลระบบซีทีเอ็กซ์ที่สนามบินนาริตะของญี่ปุ่น เป็นบริษัทเดียวกับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้นมาตรฐานเดียวกันแน่นอน

ยันไม่ได้ใช้งบราชการดูงานขยะญี่ปุ่น

ด้านนายสมชาย เทพรอด ปลัดองค์กรบริหารส่วนตำบลเชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี กล่าวชี้แจงว่า การไปดูงานบริหารจัดการขยะเป็นพลังงานไฟฟ้านั้น ไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการ และไม่มีเบี้ยเลี้ยง มีเพียงงบของบริษัทที่ญี่ปุ่น

‘ธนะศักดิ์’อุบนายกฯไปญี่ปุ่นยกปม‘แจ๊ด’หารือ

พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เร่งช่วยเหลือ โดยให้สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประสานงานกับทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้จะต้องยึดหลักกฎหมายของญี่ปุ่นด้วย และหากอัยการจะมีคำสั่งฟ้อง ทางการไทยก็ยินดีที่จะช่วยเหลือในขั้นตอนการขอประกันตัวตามกระบวนการกฎหมายของญี่ปุ่น รวมทั้งจะยืนยันว่า พล.ต.ท. คำรณวิทย์ เคยมีตำแหน่งเป็นนายตำรวจระดับสูงในประเทศไทย

" กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีการหยิบยกเรื่องการ ช่วยเหลือ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ หรือไม่นั้น คงต้องดูท่าทีของทางญี่ปุ่นก่อน"

เปิดบทสัมภาษณ์ปืน.22 มัดคอ"แจ๊ด"

วานนี้ (28 มิ.ย.) เฟซบุ๊กแฟนเพจพลังประชาชนโค่นล้มระบบทักษิณ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ในอดีตของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เมื่อครั้งยังมียศ พล.ต.ต. และ ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคที่ 1 ที่กล่าวเกี่ยวกับเรื่องปืนพกที่ตนเองใช้งานอยู่เป็นประจำ โดยพกติดตัวมี 4 กระบอก ซึ่งจะหยิบใช้ตามสถานการณ์ ตอนหนึ่งมีการกล่าวถึงปืน North American Arms ขนาด .22 ซึ่งน่าจะเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ทำให้เจ้าตัวถูกจับที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นด้วย

“กระบอกที่ 2 พกติดตัวเป็นปืนลูกโม่ North American Arms ขนาด .22 บรรจุ 5 นัด ด้ามเป็นพลาสติกพับเก็บได้ เหน็บเข็มขัดเหมือนพกแพ็คลิ้งค์ ไม่มีใครรู้ ... เล็กขนาดนี้ คำรณวิทย์บอกระยะ 100 หลา ไม่มีพลาด”

ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในช่วง ปี 2550 ถึงปี 2554 ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตามลำดับ

ผบก.ตท.เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่น

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรออัยการญี่ปุ่นพิจารณาว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งมีกรอบระยะเวลา 20 วัน โดยการพิจารณาจะมี 2 แนวทาง คือ หากอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องก็สามารถเดินทางกลับประเทศได้ทันที แต่หากมีคำสั่งฟ้องก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งหากศาลพิพากษาจำคุก ทางการไทยจะหาทางช่วยเหลือ เนื่องจากเข้าข่ายสนธิสัญญาการแลกตัวนักโทษระหว่างไทยกับญี่ปุ่น แต่ผู้ต้องหาจะต้องรับโทษ 1 ใน 3 ก่อน จึงจะแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกลับมาดำเนินคดีในไทยได้

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ต้องรอขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่น โดยทางการญี่ปุ่นยังไม่ได้มีการร้องขอเอกสารหรือข้อมูลใด ๆ พร้อมปฏิเสธแสดงความคิดเห็นหรือประเมินสถานการณ์เนื่องจากจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่น ทั้งนี้ สำหรับอาวุธปืนที่พกไปจะมีทะเบียนครอบครองถูกต้องหรือไม่ ก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาของอัยการ พร้อมระบุว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าว ยังไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจไทย-ญี่ปุ่น แต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่น
กำลังโหลดความคิดเห็น