xs
xsm
sm
md
lg

ศาลให้ประกัน 46 แนวร่วม กคป.บุกชุมนุมหน้า ปตท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


อัยการยื่นฟ้อง 46 แนวร่วม กคป.บุกชุมนุมหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท.ช่วงต่อต้านรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต ตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (23 มิ.ย.) พนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 8 ได้นำตัว นายสมปอง เรืองหนู อายุ 40 ปี กองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) และพวกรวม 46 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง, ชุมนุมมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ในพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ, ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 48, 83, 91, 92, 215, 216, 362, 365 ประกาศของศูนย์รักษาความสงบฉบับที่ 3/2557 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมลงวันที่ 25 ม.ค. 2557 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 4, 5, 6, 7, 9, 10, 18

อัยการโจทก์ฟ้องระบุสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 13 ม.ค. - 18 ก.พ. 2557 จำเลยทั้งหมด และจำเลยทั้ง 8 คน ในคดีหมายเลขดำ อ.831/2557 และจำเลยอีก 2 คนในคดีหมายเลขดำ อ.2056 /2558 ของศาลอาญากับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องอีก 95 คน และเยาวชน 5 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แยกดำเนินคดีต่างหาก บังอาจร่วมกันใช้รถยนต์บรรทุกหกล้อไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ติดตั้งเครื่องขยายเสียงกำลังสูง เพื่อใช้เป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่บริเวณหน้า บจก.เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ และ บมจ.ปตทสำนักงานใหญ่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยมีการมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 8 ในคดีหมายเลขดำ อ.831/2557 ได้ร่วมกันผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขับไล่รัฐบาล และประกาศให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง หยุดงาน รวมทั้งให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมดให้เหลือเพียงเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยเท่านั้น ต่อมาพวกจำเลยกับมวลชนประมาณ 500 คน ได้บังอาจร่วมกันตัดโซ่ที่ใช้คล้องประตูรั้ว และเหล็กที่เชื่อมประตูที่ 1 และประตูที่ 8 จนเสียหายและบุกรุกในพื้นที่ของสำนักงาน บมจ.ปตท. ผู้เสียหาย และหน่วยงานราชการ ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้ามโดยไม่มีเหตุสมควร และเป็นอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้ประชาชนที่จำเป็นต้องติดต่อราชการกับผู้เสียหาย รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้า และสินค้าบริเวณร้านค้าด้านหน้าพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้พวกจำเลยเลิกมั่วสุมชุมนุม แต่กลุ่มจำเลยกลับเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน เหตุเกิดที่แขวงและเขตจตุจักร กทม.

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมจำเลยทั้ง 46 คนได้ พร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนโดยจากการสอบสวนจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธโดยศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2135/2558

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.), นายทวีศิลป์ ประทีป, นายบุญเชิด จิตรีเชื้อ, นายวรเดช เมฆไตรภพ, นายนิพนธ์ ทรายเผื่อน, นายอโนทัย พุ่มแจ้ง, นายวิชาญ ภูวิหาร และนายทศพล แก้วทิมา จำเลยที่ 1-8 ในคดีหมายเลขดำ อ.831/2557 และ นายฉลอง สุวรรณชัย และ นายขวัญชัย แมงทอง จำเลยที่ 1-2 ในคดีหมายเลขดำ อ.2056/2558 นั้น พนักงานอัยการได้นำตัวจำเลยส่งฟ้องก่อนหน้านี้แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลยอยู่

นพ.ระวีกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยอมรับว่าตนเองและผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในกระทรวงพลังงานและบริษัท ปตท.จริง แต่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ทหารก่อนเข้าไป และได้มีการชุมนุมอยู่เฉพาะบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าเท่านั้น ไม่ได้บุกเข้าไปภายในอาคาร โดยส่วนตนเห็นว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่อกดดันรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ลาออก และเรียกร้องเรื่องพลังงาน เป็นการแสดงออกแบบอารยะขัดขืนเชิงรุกเท่านั้น

ขณะที่ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความเปิดเผยว่า หลังจากอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 46 คนแล้ว นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ใช้ตำแหน่งยื่นเป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัว พร้อมทั้งเตรียมประสานกองทุนยุติธรรม ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อนำเงินมาเป็นหลักทรัพย์ยื่นต่อศาลต่อไป โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท

สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องทั้งหมด 138 คน โดยในวันนี้ทางอัยการนำตัวมาส่งฟ้องต่อศาลอาญา 46 คน โดยในวันที่ 28 ก.ค.นี้อัยการจะนำตัวผู้ต้องหาชุดที่ 2 มายื่นฟ้องต่อศาลอาญาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น