หนังสือพิมพ์ “ตำรวจพลเมือง” ร้องสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ถูกกล่าวหาจัดตั้งกองทุนสวัสดิการหนังสือพิมพ์ เพื่อสมาชิกโดยไม่ชอบ
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย (พระราม) นายทรัพย์อานันท์ เจริญวัฒนอุดม ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย น.ส.ธิติยาพร ธรรมชลทรพย์ บรรณาธิการบริหาร และสมาชิกหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย กรณีถูกกล่าวหาจัดตั้งกองทุนสวัสดิการหนังสือพิมพ์ เพื่อสมาชิกโดยไม่ชอบ ถ.ศรีอยุธยา
นายทรัพย์อานันท์กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองมีการเชิญชวนประชาชนให้มาสมัครสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ภายใต้การดำเนินงานหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองโดยมิชอบนั้น ขอชี้แจงว่า ทางหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองได้มีการจัดโครงการช่วยเหลือสมาชิกและนักข่าวของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ที่หากเกิดการเสียชีวิตทางหนังสือพิมพ์จะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ทายาทของสมาชิก เพื่อประโยชน์ของสมาชิกและประชาชนด้วยความโปร่งใส ทั้งนี้ ทางหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองเคยเข้าร่วมดำเนินงานกับสมาคมสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์พลังเครือข่ายประชาชน ก่อนที่จะยกเลิกการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 58 เพื่อออกมาจัดตั้งและดำเนินการโครงการดังกล่าวเอง
น.ส.ธิติยาพรกล่าวว่า สมาชิกของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองนั้นจะต้องเสียค่าแรกเข้าเป็นเงิน 1,500 บาท โดยเงิน 1,000 บาทจะถูกเก็บเป็นค่าบริหารจัดการองค์กร เนื่องจากสมาชิกที่เข้ามาทำงานในองค์กรนั้นเป็นอาสาที่เข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน ก็จะมีเงินส่วนนี้แบ่งไปช่วยเหลือเขา และเงิน 500 บาทแบ่งเก็บเป็นเงินออมของสมาชิก เมื่อมีสามาชิกเสียชีวิตจะมีการขอรับเงินบริจาคช่วยเหลือจากสมาชิกคนละ 10 บาทเท่านั้น ในกรณีนี้จะขอบริจาคจากผู้ที่เป็นสมาชิกมาแล้ว 180 วัน และ สมาชิกเสียชีวิตที่จะได้รับเงินบริจาคก็ต้องเป็นสมาชิกมาแล้ว 180 วันเช่นกัน โดยในตอนนี้องค์กรของเรามีสมาชิกทั้งหมด 260,000 คน เป็นสมาชิกเกิน 180 วัน 60,000 คน
น.ส.ธิติยาพรกล่าวต่อว่า ขณะนี้องค์กรของเราจึงยังไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานใด จึงได้มีการยื่นขอการรับรองจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากองค์กรเราเพิ่งดำเนินการมาเพียง 4 เดือน ต้องดำเนินการให้ครบ 1 ปีก่อน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงจะรับรองให้