ลำปาง - ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำหมายศาลค้นสำนักงาน นสพ.ตำรวจพลเมือง สาขาลำปาง พร้อมยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบยกกระบิ พบอดีตนายกเทศมนตรีเป็น ผอ.ควบรอง บก. บอกรับสมาชิกทั่วประเทศ 1 แสนคนเท่านั้น ใครตายเก็บคนละ 10 บาท จ่ายให้ 8.5 แสนบาท บอกไม่ใช่ “ฌาปนกิจสงเคราะห์” แต่เป็นกองทุน-ฌาปนกิจชุมชนเท่านั้น
บ่ายวันนี้ (15 มิ.ย) พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง กว่า 10 นายนำหมายค้นของศาลจังหวัดลำปางเข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 665/4 ถนนเขลางค์ เขตเทศบาลนครลำปาง ที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง จังหวัดลำปาง สาขาที่ 2
หลังมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินงานของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวที่กรุงเทพฯ จนทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งทุกพื้นที่ตรวจสอบว่ามี นสพ.ดังกล่าวเปิดดำเนินการและมีการกระทำผิดหรือไม่
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนายบัณฑิต สิงห์ใจมา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแม่พริก ที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน และรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง พร้อมพนักงานอีกสองคน จึงขอทำการตรวจค้น ซึ่งนายบัณฑิตได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดเอกสาร ทั้งใบสมัคร หนังสือพิมพ์ ตราประทับ รายชื่อสมาชิก ใบเสร็จรับเงินค่าสมาชิก ใบชักชวนเข้าเป็นสมาชิก และอื่นๆ อีกหลายรายการ เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดหรือไม่
จากการสอบถามนายบัณฑิตให้การเพียงว่า ในจังหวัดลำปางมีสำนักงาน นสพ.ตำรวจพลเมืองอยู่ 2 สาขา คือ ที่อำเภอเถิน เป็นสาขาแรก และในตัวเมืองลำปาง เป็นสาขาที่สอง ส่วนในพื้นที่ใกล้เคียงมีการเปิดสำนักงานที่จังหวัดน่าน และแพร่ด้วย
เมื่อถามว่าการรับสมาชิกทำในรูปฌาปนกิจใช่หรือไม่ นายบัณฑิตบอกว่า ทางหนังสือพิมพ์รับสมาชิกเพียง 1 แสนคนเท่านั้น ค่าสมัครคนละ 500 บาท เมื่อมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งเสียชีวิต สมาชิกทุกคนก็จะเสียคนละ 10 บาทเพื่อนำไปช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ซึ่งจะได้รับประมาณ 850,000 บาท เพราะต้องหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งก็เป็นเพียงการตั้งกองทุนช่วยเหลือสมาชิกไม่ให้ครอบครัวเดือดร้อนเท่านั้น
เมื่อบอกว่าลักษณะคล้ายกับการทำฌาปนกิจสงเคราะห์ใช่หรือไม่ นายบัณฑิตกล่าวว่า เป็นกองทุนสวัสดิการ ซึ่งขณะนี้ผู้บริหารอยู่ระหว่างการดำเนินการจดทะเบียนที่กรุงเทพฯ ระหว่างนี้ให้ใช้ลักษณะฌาปนกิจชุมชนไปก่อน
เมื่อถามว่าแล้วฌาปนกิจชุมชนได้ขออนุญาตหรือไม่ นายบัณฑิตกล่าวว่า ยังไม่ได้ขอ เพราะดำเนินการยังไม่ถึงปี และเมื่อถามว่า แล้วนโยบายจริงๆ ของการตั้งหนังสือพิมพ์เขาทำแบบนี้ด้วยหรือ นายบัณฑิตบอกว่า มีหลายขั้นตอน ซึ่งต้องให้ฝ่ายกฎหมายอธิบาย