ลำปาง - วอนคนใจบุญช่วยหญิงชราพิการวัย 84 ปี ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไร้ทายาทสืบสกุลจนแม่สามีหาเมียน้อยให้ลูกชายแทน จนต้องหนีออกจากบ้านกลับมาอยู่ลำปาง แถมบัตรประชาชนหมดอายุตั้งแต่ปี 2513 ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร อาศัยข้าวจากเจ้าของบ้านเช่าประทังชีวิตไปวันๆ
วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหญิงชราไร้ญาติดูแลอาศัยอยู่คนเดียวตามลำพังที่บ้านเช่าเลขที่ 20 ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนางสาวนิตยา ช่างสกล อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน ที่ให้นางประหยัด ฉัตรแก้ว อายุ 84 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนคือ เลขที่ 235 ตรอกบ้านช่องหล่อ ต.บ้านช่องหล่อ อ.บางกอกน้อย จ.ธัญบุรี ออกบัตรเมื่อปี 2507 หมดอายุปี 2513 ที่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ ต้องนอนอยู่แต่ในบ้านเช่าอยู่
นางสาวนิตยาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าขายอาหาร-ขนมในโรงเรียนพินิจวิทยา อยู่ตัวคนเดียวสามีเสียชีวิตไปแล้ว และไม่มีบุตรจึงทำมาหากินตัวคนเดียว เมื่อ 6 ปีก่อนได้รู้จักกับนางประหยัด ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 51 ซอยหลังวัดน้ำล้อม อยู่ใกล้กับโรงเรียน และเป็นวงไพ่ตีตั๋วถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนั้นนางประหยัดยังเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติและรับจ้างซื้ออาหารเครื่องดื่มให้คนที่มาเล่นไพ่ มีรายได้พอซื้ออาหารประทังชีวิตไปวันๆ เท่านั้น
เมื่อรู้จักและสนิทกันนางประหยัดได้เล่าประวัติให้ฟังว่า เป็นคนลำปางโดยกำเนิด ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ธัญบุรี กรุงเทพมหานคร กับพ่อแม่ จากนั้นได้แต่งงานกับคนธัญบุรี ซึ่งเป็นคนมีฐานะ แต่หลังจากแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยาปรากฏว่านางประหยัดไม่สามารถมีลูกสืบสกุล ทำให้แม่สามีหาภรรยาน้อยให้สามีเพราะต้องการลูกมาสืบสกุล
หลังจากนั้นนางประหยัดจึงได้หนีออกจากบ้านสามีมาโดยไม่มีทรัพย์สินติดตัวมาแม้สักชิ้นเดียว ก่อนจะมาอยู่ที่ลำปางอีกครั้ง และไม่ได้ต่อบัตรประชาชนตั้งแต่นั้นมา
นางสาวนิตยาบอกว่า ด้วยความสงสารจึงชักชวนมาอยู่ที่บ้านเช่าเพื่อจะได้มีเพื่อน ส่วนค่าเช่าได้บ้างไม่ได้บ้างตนก็ไม่ว่าอะไรถือว่าช่วยเหลือกัน เพราะสงสารนางประหยัดไม่มีญาติพี่น้องอยู่ตัวคนเดียวตามลำพัง จนกลายเป็นครอบครัวเดียวกันและต้องเกื้อกูลช่วยเหลือกันไปแล้ว
เมื่อก่อนนางประหยัดสามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง พอมีอาการป่วยลุกเดินไปมาไม่ได้ ตนพานางประหยัดไปขอความช่วยเหลือที่เทศบาลนครลำปางเพื่อขอสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้พิการ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนราษฎรปรากฏว่าไม่มีชื่อนางประหยัด กลายเป็นบุคคลไม่มีชื่อและประวัติปรากฏในทะเบียนราษฎร ทำให้ไม่มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพและสิทธิรักษาพยาบาล
หลังจากนั้นตนพยายามวิ่งเต้นจนสามารถติดต่อศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดลำปาง ให้นำนางประหยัดเข้าไปอยู่ในความดูแลของศูนย์ฯ แต่นางประหยัดก็ไม่ยอมไปอยู่ พร้อมทั้งขอร้องฝากผีฝากไข้ให้ตนดูแลและจัดการงานศพ ด้วยความสงสารประกอบกับตนก็ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากจึงรับปากกับนางประหยัดไว้ก่อนที่นางประหยัดจะหกล้มจนเดินไปไหนมาไหนไม่ได้เมื่อเดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมา
นางสาวนิตยายังกล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้ตนก็ทำมาหากินพอจะมีเงินใช้จ่ายไม่ถึงกับเดือดร้อน และต้องคอยดูแลนางประหยัดบางอย่าง รวมทั้งจ้างให้คนช่วยดูแลเดือนละ 1,000 บาท คอยเช็ดเนื้อเช็ดตัว เก็บกระโถนอุจจาระ ปัสสาวะ ทำความสะอาดห้องเกือบทุกอย่างเพื่อลดภาระของตนที่ต้องทำมาหากิน ทั้งยังได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่บางท่านที่คอยช่วยเหลือบ้าง
ล่าสุดว่าที่ ร.ต.ชีพสิทธิ์ ฮั่นเกียรติพงษ์ ผู้อำนวยการและผู้จัดการโรงเรียนพินิจวิทยาลำปาง ซึ่งเป็นคนที่นางสาวนิตยาเคารพบนับถือ ได้เดินทางมาที่บ้านเช่าหลังทราบข่าวดังกล่าว พร้อมกับได้มอบเงินจำนวนหนึ่งแก่นางประหยัดเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายด้วย
ทั้งนี้ ได้วอนถึงผู้ใจบุญที่ต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือนางประหยัด สามารถบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาลำปาง เลขที่บัญชี 503-0-53077-0 ชื่อบัญชีนางสาวนิตยา ช่างสกุล หรือติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-5712-9482, 0-5432-3178