ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจอาสาพัทยาสุดแสบ กรรโชกทรัพย์หนุ่ม ก่อนหลอกแฟนสาวเหยื่อหวังไปร่วมหลับนอน โชคดีถูกปล่อยตัวออกมาได้ พร้อมเข้าแจ้งความเพื่อติดตามจับกุม
เมื่อเวลา 00.10 น. วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรศักดิ์ อยู่ยืน อายุ 26 ปี พนักงานอะโกโก้แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย น.ส.นิตยา เติมโยธา อายุ 23 ปี แฟนสาว ทำงานที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ตกเป็นผู้เสียหายถูกตำรวจอาสาสมัคร สภ.เมืองพัทยา 2 นาย ก่อเหตุข่มขู่กรรโชกทรัพย์ เข้าพบ พ.ต.ท.สมคิด สิทธิศาสตร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อร้องทุกข์
นายพรศักดิ์ ให้การว่า คืนที่ผ่านมาหลังจากเลิกงานได้ขับรถจักรยานยนต์แวะซื้อไก่ทอดไปฝากแฟนที่ห้องพักแห่งหนึ่งกลางซอยกอไผ่ เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอย มีชายวัยรุ่น 1 คน สวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋า พกวิทยุสื่อสาร ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซูเมอร์เอ็กซ์ สีขาว ประกบข้างแล้วบอกให้ตนเองจอดข้างทาง
ทั้งนี้ ด้วยความกลัวนึกว่าวัยรุ่นจะตามทำร้ายจึงขับหลบหนีมาที่ห้องพักแฟนสาว จากนั้นชายคนดังกล่าววิ่งไล่ติดตามขึ้นมาเข้าจับกุมตัว โดยอ้างตัวเป็นตำรวจอาสา พร้อมอ้างด้วยอีกว่าหากหลบหนี “จะยิงให้ตาย” ก่อนจะข่มขู่กรรโชกทรัพย์เป็นไอโฟน 4 และเงิน 400 บาท ต่อมาไม่นาน ได้มีตำรวจอาสาโดยสังเกตที่โลโก้พบว่าเป็นอาสาสมัครสังกัด สภ.เมืองพัทยา เข้ามาสมทบ ก่อนที่บังคับให้เปิดห้องพัก
ด้าน น.ส.นิตยา ให้การว่า เมื่อแฟนหนุ่มของตนเปิดประตูมาก็ถึงกับตกใจ เพราะถูกชายวัยรุ่นและตำรวจอาสาควบคุมตัวอยู่ สั่งให้แฟนหนุ่มเข้าไปอยู่ในห้อง จากนั้นชายวัยรุ่น และอาสาสมัครได้เรียกตนเองออกมาจากห้องพัก โดยอ้างว่าจะนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดที่สถานีตำรวจ จึงได้หลงกลตามไป โดยในระหว่างที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ชายวัยรุ่นก็ได้ชักชวนไปร่วมหลับนอนด้วย แต่ได้ปฏิเสธไป ก่อนที่ชายวันรุ่นจะพามาที่ร้านมือถือแห่งหนึ่งย่านถนนพัทยาสายสาม ขู่บังคับเอาบัตรประชาชนไป โดยให้อาสาสมัครชายคุมตัวตนเองไว้ข้างนอกบริเวณร้าน
จากนั้นชายวัยรุ่นได้นำโทรศัพท์มือถือของแฟนหนุ่มที่ถูกกรรโชกไปตั้งแต่แรกเข้าไปจำนำที่ร้านดังกล่าว โดยใช้บัตรประชาชนของตน จากนั้นชายวัยรุ่นได้เดินออกจากร้านพร้อมด้วยเงิน 3,300 บาท จึงอ้อนวอนให้ปล่อยตัวพร้อมกับขอเงิน 100 บาท เพื่อเป็นค่ารถจักรยานยนต์กลับห้องพัก เมื่อยื่นเงินให้ก็พากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ภายหลังเกิดเหตุจึงปรึกษาญาติแล้วเดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร้านมือถือที่กลุ่มผู้ก่อเหตุนำมาจำนำไว้ ทั้งนี้ พบว่าสามารถบันทึกรูปพรรณสัณฐานชายวัยรุ่นไว้ได้อย่างชัดเจน ส่วนตำรวจอาสาที่อยู่ในเครื่องแบบจะไปตรวจสอบกล้องตัวอื่นเพื่อเป็นเบาะแสในการจับกุมตัวต่อไป