xs
xsm
sm
md
lg

อดีต ผอ.สกสค.โร่มอบตัวคดีอุ้ม “เสี่ยบิ๊ก” กรรโชกเงิน 177 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


อดีต ผอ.สกสค.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาคดีอุ้มกรรโชกทรัพย์ “เดอะบิ๊ก” ประธานสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ 177 ล้านโร่มอบตัวกองปราบฯ ด้านเจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


วันนี้ (24 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. นายบุญส่ง สุขโขทัย หรือประยุทธ รัศมีแพรวพราว อายุ 65 ปี อดีต ผอ.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาเป็นหัวหน้าอั๊งยี่ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.เพื่อรับทราบข้อหาดังกล่าว โดยนำเอกสารหลักฐานพร้อมกับทำแถลงการณ์ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นมอบให้แก่พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการพิจารณา

พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือ “เดอะบิ๊ก” นักธุรกิจพันล้าน ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายบุญส่งและพวกรวม 9 คน โดยอ้างว่าถูกทั้งหมดพาตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์เป็นเงิน 177 ล้านบาท เหตุเกิดที่ค่ายลูกเสือบึงปรีดา ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ส่วนมูลเหตุน่าจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งจากการที่นายสัมฤทธิ์ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ในนามบริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ต กรุ๊ป จำกัด ใน จ.เพชรบุรี ต่อมาทาง สกสค.ได้ขอเข้าร่วมดำเนินการโครงการนี้โดยนำงบประมาณ 2,100 ล้านบาทมาลงทุน จนมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสัมฤทธิ์ ในความผิดฐานกระทำการสนับสนุนข้าราชการโดยมิชอบ และผิดระเบียบการกู้ยืมเงินของ สกสค.ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเอาไว้

พ.ต.อ.ณษกล่าวต่อว่า หลังจากผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวในครั้งนี้แล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำโดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็จะคุมตัวส่งศาลอาญาทันที โดยเบื้องต้นทางผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาซึ่งก็เป็นสิทธิที่จะให้การอย่างไรก็ได้และผู้ต้องหาคงต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาได้เข้าร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ว่า นายสัมฤทธิ์กระทำผิดฐานสนับสนุนข้าราชการโดยมิชอบ ให้กระทำผิดระเบียบการกู้ยืมเงินของ สกสค.นั้น ทาง บก.ป.คงไม่รับโอนคดีมาดำเนินการเนื่องจากเป็นคนละคดีกัน

“ขอยืนยันว่าทางพนักงานสอบสวนพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยผู้ต้องหาก็ต้องมีพยานหลักฐานมาแสดงเพื่อยืนยันให้ชัดเจน และต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนการยื่นเรื่องของประกันตัวคงต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล” พ.ต.อ.ณษ กล่าว

ด้านนายบุญส่งให้การปฏิเสธโดยระบุว่า ในวันเกิดเหตุตนเดินทางไปพบ นายสัมฤทธิ์เพียงลำพังคนเดียว ไม่มีการข่มขู่ กักขังหน่วงเหนี่ยว ตามที่การให้ข่าวต่อสื่อมวลชนมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดต่างๆ ตนได้ทำเป็นแถลงการณ์ชี้แจงไว้ สำหรับหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตัวก็ได้เตรียมไว้แล้ว

ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้นายบุญส่งประกันตัวได้ โดยใช้หลักทรัพย์ 5 แสนบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น