พัทลุง - กลุ่มแม่ค้าตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง ประมาณ 100 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง อ้างสัญญาเช่าแผงขายไม่เป็นธรรม เอาเปรียบแม่ค้า ไม่มีส่วนร่วมกำหนดเงื่อนไข หลังเคยยื่นหนังสือถึงแม่ทัพภาคที่ 4 แต่กลับถูกเพิกเฉย
วันนี้ (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง รายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง กลุ่มแม่ค้าจากตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง ประมาณ 100 คน นำโดย นายไพบูลย์ เตียวอานันทน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ถ.ราษฎร์ปราโมทย์ เทศบาลเมืองพัทลุง พากันเดินทางจากตลาดสดมายังศาลากลางจังหวัดพัทลุง
เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในกรณีที่เทศบาลเมืองพัทลุงในอำนาจร่างสัญญาเช่าแผงขายของในตลาดสดไม่เป็นธรรม และผู้บริหารเทศบาลเมืองพัทลุง ยังได้ใช้อำนาจไล่แม่ค้าไม่ให้ขายของ ทั้งที่แม่ค้าบางรายทางเทศบาลยกที่ให้ขายของในฐานะคนจน โดยไม่ต้องเช่าแผง แต่วันนี้ เทศบาลกลับคำอ้างว่าก่อนหน้านี้ได้ตัดสินใจผิดพลาดจึงขอคืนพื้นที่ และคนจนคนรวยต้องได้สิทธิเท่าเทียมกัน
นายปราโมทย์ เตียวอานันท์ แกนนำแม่ค้าตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า กลุ่มแม่ค้าต้องการเดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ และก่อนหน้านี้ ก็ได้ส่งหนังสือไปถึงแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอให้ผู้ว่าราชการช่วยแก้ไขปัญหาระหว่างเทศบาลเมืองพัทลุงกับแม่ค้าที่ขายของในตลาดสด
สืบเนื่องจากสัญญาเช่าแผงขายของที่เทศบาลร่างขึ้นมา และบังคับให้แม่ค้าเซ็นสัญญาไม่เป็นธรรม เอาเปรียบแม่ค้า และการร่างสัญญากลุ่มแม่ค้าไม่ได้ร่วมอยู่ด้วย เทศบาลเมืองพัทลุงเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขเพียงฝ่ายเดียว สำหรับแผงขายของในตลาดสดแห่งนี้แม่ค้าจำนวนมาก ใช้เป็นสถานที่ประกอบอาชีพมาแล้วกว่า 50 ปี
ทางด้าน นายประจักษ์ ขุนแทน รองปลัดเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองพัทลุงได้ประชุมร่วมกับแม่ค้าในตลาดสดมาหลายรอบ สัญญาก็มีการแก้ไขมาหลายฉบับ แม่ค้าส่วนใหญ่เห็นชอบตามที่เทศบาลได้แก้ไข แต่ก็มีบางคนที่ไม่พอใจ ที่สำคัญเทศบาลก็ร่างสัญญาตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขด้วย
ส่วนที่เทศบาลลงพื้นที่ยึดแผงขายของแม่ค้าที่เทศบาลยกให้ขายของโดยไม่ต้องเสียค่าเช่านั้น เป็นการจัดสถานที่ขายของให้แก่คนจน เมื่อให้ไปแล้วก็ทราบว่าผู้ที่อ้างว่าจนนั้นไม่ได้จนจริงจึงต้องขอแผงคืน เพื่อจัดให้แก่ผู้ที่ยากจนจริงๆ เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ทางนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียน แต่ก็ไม่ระบุในรายละเอียดว่า จะดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มแม่ค้าที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร พร้อมกับหน่วยทหารที่ก่อนหน้านี้กลุ่มแม่ค้ายื่นหนังสือไปให้ช่วยเหลือความเดือดร้อน แต่กองทัพภาคที่ 4 ยังเมินเฉย ไม่ยอมดำเนินการแต่อย่างใด จนกลุ่มแม่ค้าต้องทนรับความเดือดร้อนอยู่จนถึงปัจจุบัน
