ผบ.ตร. เผยค้นบ้าน 5 นศ. ถูกรวบคาสนามบินปากีฯ ยังไม่พบเชื่อมโยงเหตุป่วนใต้ แต่ยังไม่ด่วนสรุป เผยการข่าวช่วงเดือนรอมฎอนยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนักศึกษาไทย จำนวน 5 คน ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนที่สนามบินนานาชาติในประเทศปากีสถาน ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่เข้าไปตรวจสอบบ้านพักของนักศึกษาทั้งหมด รวมทั้งได้ตรวจสอบข้อมูลกับฝ่ายทหาร และล่าสุด รองโฆษกรัฐบาลก็ออกมาพูดแล้วว่า ทางนักศึกษาเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการต่างๆ ที่ก่อความไม่สงบ ก่อความรุนแรง รวมถึงขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต้องรอเวลาในการตรวจสอบว่านักศึกษาเหล่านี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร โดยการดำเนินการจะไม่อยู่แค่เพียงตำรวจสันติบาลเท่านั้น แต่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยงานด้านการข่าวทุกหน่วย ก็จะต้องลงมาดำเนินการติดตามเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ต้องร่วมกันสืบสวนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเหตุใด
“ทุกหน่วยต้องลงไปตรวจสอบว่ามีเหตุผลกลใด หรืออาจจะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆ เหล่านั้น ที่คิดว่าสามารถที่จะหลบหลีก ซ่อนเร้นนนำพามาได้ หรือเป็นความคึกคะนอง เป็นความเข้าใจผิด จากที่ฟังตามข่าวน้องคนที่หิ้วกระเป๋าก็ไม่รู้ว่าในกระเป๋ามีอะไร ส่วนน้องคนที่เป็นเจ้าของก็ฉลาดหน่อย เอากระเป๋าที่มีของให้เพื่อนหิ้ว จึงต้องถือเป็นบทเรียน หากเดินทางไปไหน โดยเฉพาะไปต่างประเทศ ห้ามรับฝากหรือถือกระเป๋าแทนใครเด็ดขาด แล้วขณะเดินทางห้ามถือของแทนเพื่อน นอกจากนี้ ฝากถึงผู้ที่ไปเที่ยวตามสถานบริการ ที่ห้ามรับฝาก หรือถือกระเป๋าแทนคนอื่นเช่นเดียวกัน ตรงนี้ตนอยากเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ใกล้ถึงเดือนรอมฎอน หรือ ช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย โดยการนำสถิติหรือเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียน และเป็นปัจจัยในการวิเคราะห์ หาข้อมูลทางการข่าวว่าช่วงไหนเป็นอย่างไร โดยจากสถิติเหตุการณ์ความไม่สงบก็เกิดขึ้นคล้ายกันทุกปี ฉะนั้น ในช่วงเดือนรอมฎอน ทางฝ่ายความมั่นคงก็ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวที่เป็นสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดเหตุความไม่สงบแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ตั้งอยู่ในความประมาท และมีการตรวจสอบการทำงานให้มีความพร้อมตลอดเวลา
