“อนุสิษฐ” แจง รบ.มีความพร้อมช่วงรอมฎอนที่จังหวัดชายแดนใต้ เผยคนพื้นที่เข้าร่วมต่อเนื่อง สถานการณ์พัฒนาขึ้น ย้ำมุ่งเพื่อสันติสุข รับโจรใต้ยังเคลื่อนไหว ชี้นักศึกษาไทยถูกรวบที่ปากีสถานยังไม่โยงก่อการร้าย-ไอเอส แจงที่พบอาวุธอยู่ระหว่างตรวจสอบ ที่เหลือกำลังกลับ เผย “ประวิตร” สั่งดูแล เชื่อไม่ช้ารู้สาเหตุ เผย นายกฯ บอกการเมืองเคลื่อนไหวไม่เกี่ยวต่ออายุ รบ. ย้ำตามโรดแมป รับยังมีเคลื่อนไหวอยู่
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเดือนรอมฎอนว่า รัฐบาลมีความพร้อมในทุกปี โดยการทำงานของทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการสนับสนุนการประกอบศาสนากิจให้ทุกคนมีความสะดวก ส่วนการดูแลเรื่องการรักษาความความมั่นคงนั้นเป็นเรื่องปกติที่ภาครัฐต้องดำเนินการ สิ่งที่สำคัญการดำเนินการของภาครัฐในเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทำงานของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2557 ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ และเราร่วมกันวางแผนพัฒนาจังหวัดภาคใต้ในปี 2559 โดยอาศัยภาคประชาชนในพื้นที่เข้ามาร่วมดำเนินการ จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ในภาพของการพัฒนา มีความก้าวหน้าไปมากและต่อเนื่อง
ในเรื่องของเดือนรอมฎอนที่มีความเป็นห่วงกัน เชื่อว่าทุกคนก็เป็นห่วงแม้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้รัฐบาลไม่ได้สร้างเงื่อนไขในเรื่องความขัดแย้ง แต่เราพยายามหาเงื่อนไขในการเสนอทางออก จะเห็นได้ว่าเรื่องของกระบวนการยุติธรรม การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจในการทำงานของภาครัฐ กระบวนการพัฒนาที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดวิถีชีวิต ความต้องการในพื้นที่ รวมทั้งการเจรจาพูดคุย เรื่องเหล่านี้มีความก้าวหน้าซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการหาทางออกเพื่อนำไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน ตามนโยบายและหลักการของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบนั้นยังมีอยู่ตลอด ตนในฐานะ สมช.อยากเรียกร้องทุกภาคส่วนใช้โอกาสในการแสวงหาทางออกที่รัฐบาลได้เปิดให้แล้ว ความรุนแรงนั้นไม่เป็นที่ประสงค์ของทุกฝ่าย ลูกหลานของประชาชนในพื้นที่จะเติบโตมาได้อย่างไรถ้าอยู่ในความขัดแย้งบนความรุนแรง
นายอนุสิษฐ์กล่าวถึงกรณีนักศึกษาไทยถูกควบคุมตัวที่ประเทศปากีสถานว่า ยังไม่มีความเชื่อมโยงว่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ล่าสุดนักศึกษา 4 รายที่ไม่ใช่เจ้าของสัมภาระที่ซ่อนอาวุธปืนกำลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย สาเหตุที่ทางปากีสถานส่งตัวทั้ง 4 รายมาล่าช้านั้นไม่ใช่เรื่องของทางปากีสถาน แต่เป็นเรื่องของฝ่ายเราเองที่มีความเป็นห่วงกับสายการบินว่าถ้าเดินทางมาในเที่ยวขณะนั้นจะเป็นอะไรหรือไม่ เป็นมาตราการในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของสายการบิน และเมื่อมาถึงประเทศไทยก็จะพูดคุยกันเพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เรียนอยู่ที่เดียวกันหรือไม่ ส่วนนักศึกษาอีก 1 รายที่เป็นเจ้าของสัมภาระนั้นยังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่า มีการรายงานหรือไม่ว่าสัมภาระดังกล่าวมีอุสตาซรายหนึ่งฝากมา เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนไม่ทราบ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ดูแลว่าถ้าเป็นเยาวชนที่เข้าใจผิดหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ประสานงานดูแล ตามข่าวนำเสนอว่าถูกหลอกหรือไม่ว่าให้นำสัมภาระกลับมา หรือตัวนักศึกษาเองอยากจะแสดงบทบาทอะไรเป็นพิเศษโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ ตนเชื่อว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนจะหาคำตอบได้ในไม่ช้า
เมื่อถามว่า มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ข้อมูลที่เรามียังไม่ถึงขั้นนั้น ส่วนครอบครัวของนักศึกษานั้นเบื้องต้น พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ไปพูดคุย ก็ทราบว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในเบื้องลึกตนไม่สามารถยืนยันได้ ต้องติดตามสืบสวนสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้ นักศึกษาของเราไปเรียนในประเทศตะวันออกกลางหลายคน ทั้งอียิปต์ ซูดาน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดูแลนักศึกษาเหล่านี้มาตลอด ซึ่งมีนักศึกษาบางส่วน ที่อาจจะถูกออกหมายจากที่นี่ แล้วอยู่ไม่ได้จึงไป แต่ส่วนใหญ่ที่ไปเรียนจะมีความคาดหวังว่าจะกลับมาพัฒนาในพื้นที่ และดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ซึ่งก็มีที่ไปด้วยทุนของกระทรวงการต่างประเทศ และในแต่ละปีก็มีการไปเยี่ยมเยียนพูดคุยกันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่บางทีเราไม่เข้าใจก็ไปตีความกันว่าไปเรียนในประเทศเหล่านี้จะไปฝึกอาวุธซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศถูกมองว่าเชื่อมโยงก่อการร้ายหรือไม่ นายอนุสิษฐกล่าวว่า เราถูกมองในหลายมิติ ทั้งเรื่องโรฮีนจา เรื่องหลบหนีเข้าเมือง เรื่องยาเสพติด ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำขณะนี้ คือเรากำลังกระโดดเข้าไปแก้ไขปัญหา จึงอยากให้กระตุ้นให้มีการร่วมมือ สนับสนุน ให้กำลังใจ แล้วลูกหลานเราจะได้ประโยชน์
นายอนุสิษฐกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองหลังมีสัญญาณชัดเจนว่า รัฐบาลจะอยู่ต่อไปอีกส 2 ปีว่า ถ้าเรื่องของกลุ่มการเมืองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ระบุแล้วว่า การเคลื่อนไหวไม่เกี่ยวกันกับการต่ออายุรัฐบาล นายกฯ ยืนยันเสมอว่าเป็นไปตามโรดแมป ส่วนที่มีการผลักดันให้มีการต่ออายุนั้นเป็นเรื่องของคนอื่น ก็มีการปรามกันอยู่ว่าจะทำให้เกิดความสับสนในสังคมให้ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ จากการสายข่าวของตนนั้นการเคลื่อนไหวแบบผิดปกติยังไม่มี แต่ในแง่ของการเลือกตั้ง ในแง่ของประชาธิปไตย ตนเชื่อว่าต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว อาจรวมตัวกันว่าจะทำอย่างไร แสดงความคิดเห็นอย่างไร
