xs
xsm
sm
md
lg

แม่ นศ.ไทยถูกจับปืนในปากีสถานวอนรัฐบาลช่วยเหลือ เผยลูกชายใม่ใช่เจ้าของปืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ของหนึ่งในนักศึกษาไทยที่ถูกจับกุมที่ปากีสถาน วอนทางการไทยช่วยเหลือลูกชาย เผยไม่ใช่เจ้าของปืนเพียงแต่ช่วยถือกระเป๋าของเพื่อนขึ้นเครื่อง ยืนยันลูกเป็นเด็กดีไม่มีประวัติพัวพันก่อการร้าย หรือเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงแต่ไปเรียนด้านศาสนาที่ประเทศปากีสถานเท่านั้น โดยเดินทางไปเรียนเมื่อ 2 ปีก่อน และจะกลับบ้านเป็นครั้งแรกเพื่อมาร่วมถือศีลอดในเดือนรอมฎอนที่บ้านเกิด

วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 190/6 หมู่1 ชุมชนบ้านใหม่ ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายอภิสิทธิ์ หมัดอัด อายุ 17 ปี หรือน้องหมัด ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 นักศึกษาไทยที่ถูกจับกุมที่สนามบินในประเทศปากีสถานสถาน เนื่องจากตรวจพบอาวุธปืนอยู่ในกระเป๋าเดินทางก่อนขึ้นเครื่องบินกลับไทย ทางครอบครัว และญาติๆ ต่างคอยฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง โดย นางยามีหล๊ะ หมัดอัด อายุ 36 ปี มารดาของน้องหมัด เปิดเผยว่า ทราบข่าวที่ลูกชายถูกจับกุมแล้ว ขณะนี้ยังรอความหวังจากทางการไทยในการประสานงานช่วยเหลือนำลูกชายกลับมา เพราะกลัวว่าจะต้องถูกดำเนินคดีในประเทศปากีสถาน

 
นางยามีหล๊ะ บอกว่า ลูกชายเดินทางไปเรียนด้านศาสนาที่โรงเรียนมัรกัสไดวิน ในปากีสถาน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเมื่อช่วงดึกวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา จะเดินทางกลับไทยเป็นครั้งแรกเพื่อมาร่วมถือศีลอดในเดือนรอมฎอนที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ที่บ้านเกิดใน ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร โดยให้พี่สาวไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ บอกว่าจะเดินทางมาถึงช่วงตี 5 แต่เมื่อพี่สาวไปรอรับจนถึงเที่ยวกลับไปพบจึงประสานติดต่อเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ที่เดียวกันทราบว่า ถูกจับกุมที่สนามบินก่อนที่จะขึ้นเครื่อง

นางยามีหล๊ะ กล่าวว่า จากการสอบถามเหตุการณ์จากเพื่อนลูกชายที่ไปเรียนอยู่ที่เดียวกันทราบว่า อาวุธปืนที่พบไม่ได้เป็นของลูกชาย แต่เป็นของเพื่อนอีกคนซึ่งอยู่ที่ จ.ปัตตานี แต่ขณะขึ้นเครื่องได้ช่วยกันหิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่อง และลูกชายไปถือใบที่มีอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ และจากการสอบสวนของตำรวจปากีสถานเพื่อนที่เป็นเจ้าของอาวุธปืนก็ยอมรับแล้ว และยืนยันว่าลูกชายของตนไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องต่อการก่อการร้าย หรือเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงแต่ไปเรียนด้านศาสนาที่ปากีสถานเท่านั้น โดยนางยามีหล๊ะ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ต้องการให้ทางการไทยเร่งช่วยเหลือลูกชาย พร้อมกับเพื่อนโดยเร็วที่สุดเพราะกลัวว่าจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีที่ปากีสถาน และครอบครัวรวมทั้งญาติเป็นห่วงมาก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น