กระบี่ - พ่อ-แม่นักศึกษาไทยที่ถูกจับพกพาอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนปืนในสนามบินปากีสถาน ร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ วอนช่วยลูกชายพ้นข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีที่ นายฟารุด สูทอก อายุ 20 ปี นักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนศาสนามัรกัสตักลิส ซาวารี ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน พร้อมด้วยเพื่อนอีก 4 คน ถูกจับที่สนามบินลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน เมื่อค่ำวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากถูกตรวจพบอาวุธปืน พร้อมกระสุนก่อนขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินที่ ทีจี 346 เส้นทางลาฮอร์-กรุงเทพฯ กำหนดเวลาเดินทาง 23.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับพ่อแม่ของนายฟารุด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.) นายประเสริฐ สูทอก อายุ 46 ปี และนางอำพร สูทอก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/3 ม.1 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพ่อแม่ของนายฟารุด สูทอก อายุ 20 ปี 1 ใน 5 ของนักศึกษาไทยที่ถูกจับกุม พร้อมด้วย นายอิบร้อเหม หวังสป ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ห้วยห้วยน้ำขาว และญาติ ประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยเหลือนายฟารุด กลับประเทศโดยเร็ว เพื่อแสดงเพื่อความบริสุทธิ์ใจว่า นายฟารุด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่ออาวุธปืนที่ถูกจับ โดยมี นายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ ป้องกันจังหวัดกระบี่ รับเรื่อง
ด้าน นายสุพัชรพงศ์ กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลข่าวสารในเบื้องต้นทราบว่า นายฟารุด ถูกจับพร้อมเพื่อนอีก 4 คน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ประเทศปากีสถาน ซึ่งทางรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนความต้องการของพ่อแม่ของนายฟารุด ที่เดินทางมาขอความช่วยเหลือให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ช่วยเหลืออีกทางหนึ่งนั้น ก็จะเร่งดำเนินการให้อย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน