xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยา” ปัดคนใกล้ชิดเอี่ยวฆ่าสันติบาล-ตร.เตรียมนำปืนยิงทดสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


คอมมานโดกองปราบปิดเมืองนครปฐม บุกค้น 13 จุด พร้อมบ้าน “ไชยา สะสมทรัพย์” ยึดปืนได้รวม 25 กระบอก กระสุน 1,000 กว่านัด พร้อมเสื้อกันกระสุน แต่ส่วนใหญ่ปืนมีทะเบียน เตรียมยิงทดสอบเปรียบเทียบ ด้านอดีตรัฐมนตรีเผยยินดีให้ตรวจค้น ยันไม่มีคนใกล้ชิดเอี่ยวฆ่าสันติบาล และไม่เอาเด็กกเฬวรากมาอยู่ให้เสียชื่อ


วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.ช่วยราชการ ศปก.ตร. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาการ ผกก.ปพ.บก.ป. นำกำลังตำรวจกองปราบพร้อมหน่วยคอมมานโดกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างภายใน จ.นครปฐม ภายใต้ “ยุทธการปฐมเจดีย์” รวม 13 จุด ประกอบด้วย

จุดที่ 1 บ้านในซอยมานิต หมู่ 2 ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม 2. บ้านในหมู่ 1 ต.ถนนขาด อ.เมือง 3. บ้าน ต.บ่อพลับ อ.เมือง 4. บ้านบริเวณถนนจันทคามพิทักษ์ หมู่ 1 ต.สนามจันทร์ อ.เมือง 5. บ้านใน หมู่ 2 ต.บ่อพลับ อ.เมือง 6. บ้านในหมู่ 7 ต.บางแขม อ.เมือง 7. บ้านที่ถนนราชมรรคา ต.สนามจันทร์ อ.เมือง 8. บ้านในซอยตรอกโรงธูป ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง 9. บ้านในหมู่ 8 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน 10. บ้านในหมู่ 6 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง 11. บ้านในหมู่บ้านศรีสามพราน หมู่ 4 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน 12. บ้านในหมู่ 5 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม และ จุดที่ 13. บ้านเลขที่ 211/2 ถ.มาลัยแมน ต.ลําพยา อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักของนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส. จังหวัดนครปฐม พรรคพลังประชาชน

สำหรับเป้าหมายทั้ง 13 จุดนั้น เป็นบ้านของบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งนักการเมืองระดับประเทศ บ้านอดีตรัฐมนตรี บ้านอดีต ส.ส. บ้านอดีตนายก อบจ. บ้าน ส.จ. อดีตนายก อบต. บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคนสนิทของอดีตรัฐมนตรี รวมทั้งบ้านพักของราชาตู้ม้า ที่ อ.ดอนตูม และ อ.สามพราน

บ้านพักของนายไชยานั้น มีเนื้อที่กว้างถึง 10 ไร่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนสั้นจำนวน 8 กระบอก และกระสุนปืนขนาด 9 มม. 11 มม. และ .45 รวมกว่า 800 นัด วิทยุสื่อสารทางราชการ 2 เครื่อง และเสื้อเกราะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 ตัว โดยมี นายฉัตรชัย อยู่ญาติมาก อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่คนขับรถของนายไชยา รับเป็นเจ้าของเสื้อเกราะกันกระสุน โดยอ้างว่ามีผู้นำมาให้ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใครและนำมาให้นานแล้ว

นายไชยา กล่าวว่า ตนได้ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแสดงหมายค้นเพื่อเข้ามาตรวจค้นผู้ต้องหาที่ยิงตำรวจเสียชีวิต รวมทั้งตรวจค้นอาวุธปืน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นบุคคลใกล้ชิดกับตนนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ถ้าหากพูดว่าคนสนิทสำหรับตนนั้นก็จะเป็นคนที่อยู่ในบ้านคอยรับใช้ดูแล ไม่มีทางที่คนสนิท หรือคนใกล้ชิด จะเป็นคนที่มีประวัติไม่ดี ตนเป็นนักการเมืองไม่มีทางเอาเด็กกเฬวรากมาอยู่ให้เสียชื่อ

ขณะที่จุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 137/2558 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2558 เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 473 ถ.ราชมรรคา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว เนื้อที่กว่า 1 ไร่ เปิดเป็นสำนักงานของบริษัท ไทยวุฒิพงษ์ จำกัด ประกอบกิจการรับถม ขุดบ่อดิน รวมทั้งห้องพักของคนงาน ซึ่งมี นายวันชัย เอกวิชาพงษ์ เป็นเจ้าของ และเป็นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นนั้น มี นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ หรือที่รู้จักกันในนาม ส.ส.เบ้ อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นพบอาวุธปืนขนาด .38 พร้อมกระสุนปืน 1 กระบอก ไม้คมแฝก 1 อัน ป้ายทะเบียนรถจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ตรวจสอบต่อไป

จากนั้นเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 รักษาการ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อัคราเดช ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างในพื้นที่ จ.นครปฐม พร้อมของกลางได้อาวุธปืนชนิดต่างๆ 25 กระบอก เป็นปืนพกสั้น 19 กระบอก ปืนยาว 6 กระบอก กระสุนกว่า 1,106 นัด แมกกาซีนบรรจุกระสุน 27 อัน ป้ายทะเบียนรถ 16 แผ่น เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง โพยพนันฟุตบอล 80 แผ่น พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย แจ้งข้อหามีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 3 ราย และความผิดฐานลักลอบเล่นการพนัน 1 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้นั้น มีอาวุธปืนพกสั้นทองคำของ นายไชยา สะสมทรัพย์ รวมอยู่ด้วย 1 กระบอก

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ จ.นครปฐม อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมากกว่า 20 คดี โดยเฉพาะคดีคนร้ายยิง ส.ต.ต.สหชาติ ถึงสุข ผบ.หมู่ กก.1 บก.ส.3 เสียชีวิตเมื่อกลางดึกวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา และถัดไปไม่กี่วันมีการยิงกันตายในพื้นที่อีก นำไปสู่การโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ภาค 7 รวมถึงตำรวจสันติบาลและกองปราบปราม จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าว ซึ่งอาวุธปืนส่วนใหญ่เป็นปืนที่มีทะเบียน หลังจากนี้ จะทำการตรวจยึดและนำไปยิงทดสอบเปรียบเทียบกับ และตรวจสอบประวัติปืน ว่า โยงคดีอาชญากรรมและคดีสะเทือนขวัญในพื้นที่นครปฐมหรือไม่

ต่อมา ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเปิดยุทธการปฐมเจดีย์เมื่อเช้าวันนี้ เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ในพื้นที่นครปฐมมีเหตุยิงกันบ่อย และเป็นพื้นที่ที่ขาดการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ล่าสุด เกิดเหตุตำรวจสันติบาลถูกยิงเสียชีวิต รวมทั้งมีเหตุยิงนักพนันเสียชีวิต ซึ่งคดีไม่มีความคืบหน้าและยังถูกปิดเงียบ ตำรวจกองปราบปรามจึงเปิดปฏิบัติตรวจค้น โดยเฉพาะบ้านของผู้มีอิทธิพล

“เพราะเราต้องการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และสังคมต้องมีความเท่าเทียมกัน เพราะเราเป็นผู้รักษากฎหมาย ส่วนใครเป็นอย่างไรไม่ทราบ อดีตที่ผ่านมาต้องรักษาความดีงาม ทุกคนต้องช่วยกัน” พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าว

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนได้หลายรายเป็นที่น่าพอใจ ยืนยันกองปราบปรามจะเดินหน้าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจะมีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธปืนอย่างเข้มงวด รวมทั้งเอาผิดสถานบริการต่างๆ หากพบมีการเปิดเกินเวลา นอกจากจังหวัดนครปฐมแล้ว จากนี้กองปราบปรามจะมีปฏิบัติการลงพื้นที่ในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อเข้มงวดป้องกันปราบปรามเหตุอาชญากรรม และเพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น