xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” แจงเด้งเพิ่ม 10 ตร. ฮึ่ม ผบช.ภ.7 ต้องรับผิดชอบหากแก้ไขปัญหาไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.แจงเด้งเพิ่ม 10 นาย ตร.สังกัด บช.ภ.7 และกองปราบปราม ฐานบกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข ย้ำหาก ผบช.ภ.7 ไม่แก้ปัญหาให้ดีขึ้น อาจต้องเข้ามาคุยกันที่ ศปก.ตร.

วันนี้ (26 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีคำสั่งให้นายตำรวจสังกัด บช.ภ.7 และกองปราบปรามจำนวน 10 นายมาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นการออกคำสั่งเพิ่มเติมจากคำสั่งแรก จริงๆ แล้วควรออกไปคราวเดียวกัน แต่เนื่องจากตนได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกคำสั่งในเวลาเกือบเที่ยงคืน ทำให้ขณะนั้นข้อมูลไม่เพียงพอจึงอาจมีตกหล่น สำหรับคำสั่งโยกย้ายนายตำรวจทั้ง 2 ครั้งเป็นการดำเนินการสืบเนื่องจากคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เม.ย. 2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข ปรับปรุงมาจากคำสั่ง ตร.ที่ 234 เดิม ที่ระบุว่าหากเกิดคดีที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข หรือคดีสำคัญเกิดขึ้นในพื้นที่ ผู้ที่รับผิดชอบ คือ 5 เสือโรงพัก และ ผบก. อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งมองว่าหากเกิดเหตุขึ้นในท้องที่ใดนอกจากตำรวจท้องที่ที่จะต้องรับผิดชอบแล้ว หน่วยสนับสนุนอย่างกองบังคับการต่างๆ ที่อยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งรับผิดชอบในแต่ละหน้างาน อย่างกองปราบปราบปราม (ป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวการค้ามนุษย์ (ปคม.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) หรือหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะต้องรับผิดชอบด้วย พูดง่ายๆ ว่ามีตำรวจท้องที่ และก็ต้องมีหน่วยสนับสนุนที่ต้องมาช่วยกันทำงาน หากเกิดความบกพร่องหรือเกิดเหตุสำคัญก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ

“ตำรวจมักจะพูดว่าวิ่งเต้นไปอยู่ บช.ก.ดีกว่า รับแต่ชอบไม่ต้องรับผิด ผมทำสิ่งนี้ให้เกิดความเท่าเทียมกัน มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ตำรวจท้องที่และหน่วยสนับสนุนร่วมกันทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง หรืออาฆาตมาดร้ายใคร ผมไม่รู้จักใครทั้งสิ้น เวลาออกคำสั่งไม่ได้มองว่าหน่วยนี้มีใครบ้าง นามสกุลอะไรบ้าง เด็กใครบ้างญาติใครบ้าง รุ่นพี่รุ่นน้อง ตรงนี้ไม่ต้องคำนึง ว่ากันไปตามคำสั่ง เพราะคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ครอบคลุมในสิ่งเหล่านี้” ผบ.ตร.กล่าว และว่าที่ผ่านมาอาจมีข้อครหาว่าตนได้ใช้อำนาจหน้าที่ความเป็น ผบ.ตร.ออกคำสั่งในลักษณะนี้ทำให้ตำรวจเสียขวัญ ยืนยันว่าตนใช้อำนาจของตนกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องเท่านั้น สำหรับเพื่อนข้าราชการกว่า 2 แสนนายก็ต้องรู้ดีว่าตนทำไปเพื่ออะไร ที่ทำไปทั้งหมดนี้เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพี่น้องประชาชนทำให้เห็นว่าคำสั่งคือคำสั่ง ทุกคนต้องปฏิบัติ ต้องช่วยกันทำงาน จะลอยตัวไม่ได้ และต้องรับผิดชอบร่วมกัน อย่างไรก็ตามตนพร้อมจะให้ความเป็นธรรม ถ้ามีการสอบสวนแล้วว่าตำรวจที่ถูกย้ายมาไม่มีความผิด หรือพบว่าระหว่างที่เกิดเหตุคดีสำคัญ ได้ใช้ความพยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่หรือเข้มงวดกวดขันแล้ว

พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้กล่าวในการประชุมมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการตำรวจระดับ ผกก.ขึ้นไปในสังกัด บช.ภ.7 ว่า ผลงานโดยรวมดี รับได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ถือว่าผ่าน ตำรวจทุกนายมีความตั้งใจทุ่มเทในการทำงาน ภาพรวมส่วนใหญ่ดี แต่มีปัญหาที่ จ.นครปฐม ซึ่งเราจะไปเหมารวมทั้งเข่งว่า ผบช.ภ.7 ไม่ดีไม่ได้

“ผมบอกว่าวันนี้เมื่อ ผบช.ภ.7 รู้ว่าที่ จ.นครปฐม มีปัญหา ผมได้เข้ามาแก้ปัญหาให้แล้ว หาก ผบช.ภ.7 ไม่แก้ปัญหาให้ดีขึ้น อย่างนี้ท่านจะต้องมาคุยกับผมที่ ศปก.ตร. คือเราให้โอกาส แต่ผมก็ย้ำว่า ผบช.คนเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หากรอง ผบช., ผบก., รอง ผบก., ผกก. จนถึงสารวัตร ไม่ช่วยกันทำงาน ขณะนี้ผมเรียกคนเหล่านี้มาช่วยราชการ คนที่ปฏิบัติหน้าที่แทนคือคนที่ ผบช.เป็นคนเลือก ท่านต้องมั่นใจว่าคนที่ท่านเลือกเป็นคนที่ไว้ใจ ทำงานได้ ถ้าหากท่านได้เลือกลงไปแล้วทำไม่ดี เกิดปัญหากลับขึ้นมาอีก แล้วใครควรเป็นคนรับผิดชอบ” ผบ.ตร.ระบุ และว่าปัญหาตรงนี้ ผบช.ภ.7 ทราบดีเพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ต้องใช้เวลา ต้องให้เกียรติท่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ผบช.ภ.7 ไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ท่านยอมรับหรือไม่ หากถูกโยกย้าย พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตรงนี้ตนได้ย้ำไปแล้วว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ประกอบในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในคราวต่อไป เมื่อถามถึงกรณี จ.นครปฐม ที่มีปัญหา เป็นไปได้หรือไม่ที่ ผบก.ภ.จว.นครปฐม จะไม่มีโอกาสกลับคืนตำแหน่ง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ เพราะอย่างที่ตนบอกไปแล้วว่าจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย หากพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสมกับพื้นที่ลักษณะแบบนี้ก็จะพิจารณาโยกย้ายไปในพื้นที่อื่นหรือตำแหน่งที่เหมาะสม

เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล หรือนักการเมืองท้องถิ่นหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีอาญาสำคัญซึ่งลงพื้นที่อยู่ในขณะนี้ระบุว่าคดีนี้จะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับใคร ผู้มีอิทธิพล นักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองระดับชาติ หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด

พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า วันที่ 27 พ.ค. เวลา 13.30 น.จะเชิญตำรวจที่ถูกสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ทั้งหมด มารับฟังแนวทางวิธีปฏิบัติตัว นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ตำรวจเหล่านี้ทำบันทึกชี้แจง โดยตนพร้อมจะคืนความเป็นธรรมให้กับทุกคนหากไม่มีความผิด หรือปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถแล้วก็จะคืนความเป็นธรรมให้




กำลังโหลดความคิดเห็น