ตร.พร้อมหากยกเลิกกฎอัยการศึก หลัง คสช.เตรียมนำมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 มาใช้ดูแลความสงบเรียบร้อยแทน ยันออกหมายจับลูกชาย “เดียร์” พันบึ้มศาลอาญา
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เตรียมนำมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 มาใช้ดูแลความสงบเรียบร้อยแทนกฎอัยการศึก โดยยืนยันว่าตำรวจพร้อมปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยเหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องรอรับฟังรายละเอียดและข้อกำหนดในคำสั่งตามมาตรา 44 นี้ จากรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนถึงอำนาจหน้าที่ต่างๆ
เตรียมออกหมายจับลูกชาย “เดียร์” พันบึ้มศาลอาญา
พล.ต.ท.ประวุฒิ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายปาระเบิดใส่ลานจอดรถ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ว่าพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเตรียมออกหมายจับเครือข่ายก่อเหตุปาระเบิดศาลอาญา อย่างน้อย 1 คน คือ นายธราเทพ มิตรอารักษ์ บุตรชายของนางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือเดียร์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ซึ่งทำหน้าที่รับโอนเงินในเครือข่าย ขณะที่ผู้ต้องสงสัยรายอื่นซึ่งเป็นเครือข่ายระดับกลางหรือล่างนั้นหลักฐานยังไม่ชัดเจน
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวถึงการติดตามนายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีในต่างประเทศ ได้ประสานตำรวจสากลติดตามความเคลื่อนไหวของนายมนูญแล้ว ส่วนการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาสั่งฟ้องของอัยการ
ยังไม่มีการเกณฑ์ตำรวจ เนื่องจากระเบียบปฏิบัติยังไม่แล้วเสร็จ
ด้าน พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับตำรวจเกณฑ์ว่า หลังเรื่องนี้ได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมกฤษฎีกา จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทำให้ยังไม่ทันบังคับใช้ในปีนี้ แต่คาดว่าจะบังคับใช้ได้ช่วงเดือน พ.ค. ปี 2559
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังกำหนดช่วงเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตร ถึงผู้บังคับหมู่ วาระประจำปี 2557 โดยให้แต่ละหน่วยพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 พฤษาภาคม และให้คำสั่งมีผลบังคับใช้พร้อมกันวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ สำหรับ “โครงการจับคู่ย้าย” ให้ตำรวจทุกนาย สามารถใช้เป็นช่องทางพูดคุย และสร้างโอกาสย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ต้องการได้โดยสมัครใจ