แถลงจับมือยิง “พระหมอ” สารภาพรับงานจาก ด.ต.ชาญชัย อดีตพลขับอดีตผู้การอุดรฯ ได้ค่าจ้าง 5 หมื่น อ้างไม่รู้มาก่อนว่าเหยื่อเป็นพระ แต่เมื่อรู้ก็ไม่เปลี่ยนใจเพราะฉุกละหุก เผยวิญญาณสุดเฮี้ยนเข้าฝันถึง 2 ครั้ง ด้านดาบตำรวจหนีไปกบดานฝั่งลาวแล้ว
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายปัญจ๋า ชารีแสน มือปืนในคดียิงพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด อ.เมือง จ.อุดรธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวมีการแสดงแผนผังความเชื่อมโยงผู้ก่อเหตุในคดีนี้ โดยระบุว่ามี “เสี่ย บ.” เป็นผู้จ้างวาน เหตุเพราะมีความขัดแย้งกับพระหมอ เนื่องจากมีหญิงคนหนึ่งมาเกี่ยวข้อง โดยเสี่ย บ.ว่างจ้าง ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ให้ติดต่อนายปัญจ๋าที่ทำหน้าที่มือปืน ค่าจ้าง 50,000 บาท โดยนายชาญชัยใช้รถปิกอัพยี่ห้อมาสด้า รุ่นแค็บ สีขาว นายปัญจ๋าก่อเหตุโดยใช้ปืนลูกซองดัดแปลงยิงกระสุนเอ็ม 16 สังหาร
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จากการประสานงานกันของตำรวจ ภ.จว.อุดรธานี บช.ภ.4 ชุดทำงานของ พล.ต.ท.ปัญญา ชุดสืบสวนคดีพิเศษของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และกองบังคับการปราบปราม ได้จับกุมนายปัญจ๋ามือปืนได้ และออกหมายจับกุม ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติงานชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุดรธานี ในฐานะคนขับรถ และชี้เป้า โดยจับกุมนายปัญจ๋าได้ในช่วงเย็นวันที่ 24 มีนาคม และสอบสวนนายปัญจ๋าให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงพระอาจารย์บัณฑิตจริง โดยได้รับค่าจ้างตอบแทนเป็นเงิน 50,000 บาท เบื้องต้นออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน ส่วนผู้จ้างวานนั้นมั่นใจว่าจากพยานหลักฐานที่มีจะสามารถขออนุมัติออกหมายจับได้ในเร็ววันนี้ ยังบอกไม่ได้ว่านอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และเสี่ย บ.ที่ชุดสืบสวนเชื่อว่าเป็นผู้จ้างวานบางการนั้นยังเปิดเผยไม่ได้ว่ามีคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ตนไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดที่จะกระทบต่อคดี อย่างไรก็ตามมูลเหตุสำคัญที่นำสู่การจ้างวานฆ่าพระหมอนั้น จากการสืบสวนเชื่อว่าเป็นเรื่องความเข้าใจผิดในกรณีชู้สาว
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบ ด.ต.ชาญชัยนั้นเคยทำหน้าที่เป็นคนขับรถของ พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.กฝ.ตชด.อดีต ผบก.ภ.จว.อุดรฯ แต่อย่าเพิ่งไปมองว่าทั้ง พล.ต.ต.บุญลือ และพล.ต.ต.ชัญญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรฯ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ การย้ายมาเพื่อให้การทำงานไม่มีข้อครหาหลังจากที่ประชาชนร้องเรียน เบื้องต้นตนได้สอบถามที่มาที่ไปเรื่องนี้กับ พล.ต.ต.ชัยญัติแล้ว ส่วน พล.ต.ต.บุญลือนั้นทราบว่ามารอพบตนแต่ยังไม่มีโอกาสคุยกัน ทั้งนี้เรื่องนี้หากพบว่าใครเกี่ยวข้องแม้จะเป็นตำรวจก็จะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่อยากให้มองว่าตำรวจช่วยเหลือกัน จึงย้าย ผบก.ทั้งสองคนเพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย ด้าน ด.ต.ชาญชัยนั้นเบื้องต้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งนี้คาดว่าจะหลบหนีไปซ่อนตัวที่ฝั่งประเทศลาวแล้ว แต่จะตามจับกุมให้ได้เพื่อนำตัวสืบสวนสอบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญากล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนและพยานหลักฐานที่มี ชี้ชัดว่าเหตุเกิดจากเสี่ย บ.เข้าใจผิดในตัวพระหมอ โดยมั่นใจว่าเสี่ย บ.เป็นผู้จ้างวาง ขอเวลาสักระยะในการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับเสี่ย บ. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การสืบสวนมองได้ 2 ทาง อย่างแรก เสี่ย บ.จ้างเองโดยตรง หรืออีกอย่างมีคนกลางรับงานจากเสี่ย บ.แล้วไปว่าจ้างอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า ด.ต.ชาญชัยนั้นเคยรับราชการเป็นตำรวจชุมชนสัมพันธ์ที่ ภ.จว.กาฬสินธุ์ และสนิทสนมกับนายปัญจ๋าที่มาช่วยงานตำรวจ โดยนายปัญจ๋านั้นมีความรู้ด้านช่างกลึง ช่างเหล็ก ทั้งคู่สนิทสนมกันมานาน ด.ต.ชาญชัยจึงติดต่อให้นายปัญจ๋ารับงานนี้ จากการสืบสวนนายปัญจ๋าไม่เคยมีประวัติเป็นมือปืนมาก่อน ทั้งนี้ ด.ต.ชาญชัยนั้นติดตามสะกดรอยดูพฤติกรรมของพระหมอ กับบุคคลหนึ่งมาสักระยะหนึ่ง จนกระทั่งได้รับคำสั่งให้ลงมือ ก่อนลงมือก่อเหตุ ด.ต.ชาญชัยได้ขับรถคันที่ก่อเหตุดูลาดเลาตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ. โดยวันที่ 28 ได้รับตัวนายปัญจ๋า มือปืนมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ก่อนพาไปลงมือในเช้าตรู่วันที่ 1 มีนาคม
“การสืบสวนพบรถปิกอัพมาสด้าสีขาวคันที่ใช้ก่อเหตุขับไปจอดที่ สภ.เมืองอุดรฯ ในวันที่ 28 ก.พ. เห็นชาย 2 คนออกจากรถ สืบสวนนำไปสู่การตามจับกุมนายปัญจ๋า ขณะนั่งดื่มสุราที่บ้านพักใน จ.กาฬสินธุ์ เมื่อชุดจับกุมไปถึง นายปัญจ๋ายอมมอบตัวทันทีไม่มีการขัดขืน โดยอ้างว่าหลังก่อเหตุสังหารพระ เครียดจนนอนไม่หลับ ฝันถึงพระอาจารย์บัณฑิตถึง 2 ครั้ง ต้องดื่มเหล้าย้อมใจทุกวัน และทำไปเพราะต้องการเงินไปช่วยเหลืออดีตภรรยาและบุตรสาวที่อยู่ต่างประเทศ นายปัญจ๋าเป็นคนมีความรู้เรื่องเหล็ก ท่อ จึงทำปืนประดิษฐ์ขึ้นเอง ลักษณะคล้ายปืนปากกา และทำงานคลุกคลีกับตำรวจมาตลอดจึงมีทักษะการยิงปืน” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พนักงานสอบสวนจะต้องเชิญตัวนายบรรเจิด หรือเสี่ยบั๊ค ฉัตรไพฑูรย์ ประธานกรรมการโรงพยาบาลเอกอุดรมาสอบปากคำอีกครั้งหรือไม่ พล.ต.ท.ปัญญากล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยสอบปากคำในฐานะพยาน เนื่องจากมีการพาดพิงถึงเท่านั้น ยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ส่วนจะมีการออกหมายเรียกมาให้ปากคำ หรือออกหมายอื่นๆ หรือไม่ คงต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน จึงชี้ชัดได้
ด้านนายปัญจ๋ากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงพระหมอจริง โดยได้รับการติดต่อว่าจ้างจาก ด.ต.ชาญชัย ก็ตกลงรับงานด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท โดยไม่ทราบว่าเป้าหมายเป็นใคร เมื่อตกลงรับงานและรับเงินเรียบร้อยก็เดินทางไปที่ จ.อุดรธานีพร้อม ด.ต.ชาญชัย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุจึงทราบว่าเป้าหมายเป็นพระ แต่ตอนนั้นฉุกละหุกแล้วไม่มีเวลาเปลี่ยนใจ ตนเป็นลูกผู้ชายรับเงินรับงานมาแล้ว นาทีนั้นต้องทำ หลังจากทำแล้วก็รู้สึกละอายใจและอยากมอบตัว หลังยิงเสร็จแล้วได้ถาม ด.ต.ชาญชัยว่าทำไมต้องฆ่าพระ ได้รับคำตอบว่าพระรูปนี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจมืด แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้มากกว่านั้น จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ตนเป็นชาวพุทธรู้สึกละอายที่ทำแบบนี้
นายปัญจ๋ากล่าวอีกว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุก็ทำขึ้นเอง ใช้ปืนลูกซองดัดแปลงลำกล้องด้วยปืนลูกกรด โดยทำไว้นานแล้ว เคยใช้แต่ยิงปลายิงนก เคยฆ่าแต่ปลา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฆ่าคน แต่ต้องทำเพราะต้องการเงิน