อุดรธานี - กำลังผสมตำรวจ ทหาร ลุยตรวจค้น 4 เป้าหมายที่เกี่ยวพันวางแผนฆ่า “พระหมอ” จุดแรกบุก รพ.เอกอุดรแต่ไม่พบผู้ต้องสงสัย ผช.ผบ.ตร.เผยตัวดาบตำรวจ ชาญชัย คนขับรถวันก่อเหตุหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนตัวผู้จ้างวานกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด อย่างไรก็ตามช่วงเช้าวันนี้นำตัวมือปืนขอขมาพระพ่อและแม่ของพระหมอที่วัดป่าตอสีเสียด หลังจากนั้นทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (25 มี.ค.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.รณสินธุ์ ภู่สาระ รอง ผบช.กองแผนกกิจการพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.อ.เอกพันธ์ ฑีฆสุนทร ผบ.ร้อย.สห.มทบ.24 ทำหน้าที่ ผบ.ร้อย.รส.นำกำลังตำรวจกองปราบปราม สืบสวนภาค 4 และสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และกำลังทหาร รวม 20 นาย อาศัยใช้กฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นโรงพยาบาลเอกอุดร เลขที่ 555/5 ถนนโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นอาคาร 12 ชั้น
โดยเข้าตรวจค้นชั้น 4 ซึ่งเป็นสำนักงานฝ่ายบริหาร ปรากฏว่าไม่พบนายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาล ที่สำคัญประตูสำนักงานถูกล็อกกุญแจ ไม่สามารถเปิดได้
หลังจากนั้น พล.ต.ท.ปัญญาจึงได้สั่งถอนกำลังที่ไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 99 ถนนสุรการ เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบเพียง พญ.วารุณี ฉัตรไพฑูรย์ ภรรยาคนแรกพาตำรวจเข้าตรวจค้น ขณะตำรวจเข้าตรวจค้น พญ.วารุณีได้โทรศัพท์ไปหานายบรรเจิด ถามสามีว่า “ป๊ามันเกิดอะไรขึ้น ตำรวจ ทหาร มาเต็มบ้านหมดเลย”
จากการตรวจค้นไม่พบนายบรรเจิด ซึ่ง พญ.วารุณีแจ้งว่านายบรรเจิดไปธุระต่างจังหวัด พร้อมบอกกับสื่อมวลชนว่าให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตัวเองด้วย ส่วนพระหรือวัดไม่เคยรู้จักมาก่อน ส่วน “หมอแก้ว” เคยทำงานที่โรงพยาบาล และชอบไปทำบุญที่วัดป่าตอสีเสียด แต่ไม่เคยไปทำบุญกับหมอแก้วเลย ถ้าสามีกลับมาจะให้ไปพบตำรวจ อยากขอความเป็นธรรมด้วย
ขณะที่ พ.ต.ต.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ร.ต.อำนาจ อินทกนก ผบ.ร้อย.รส.ที่ ร.13 พัน.2 ค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ นำกำลังชุดคอมมานโดเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 170 หมู่ 2 บ้านสร้างแป้น ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่ สส.ภ.จ.อุดรธานี คนขับรถให้มือปืนไปยิงพระหมอ พบเพียงนายสำราญ สร้อยสังวาลย์ อายุ 76 ปี ผู้เป็นพ่อ จากการตรวจค้นพบปืนขนาด 1.22 จำนวน 1 กระบอก มีทะเบียนพร้อมกระสุนปืน .22 จำนวน 3 นัด และขนาด .38 จำนวน 4 นัด
ทั้งนี้ การบุกเข้าตรวจค้นทั้ง 4 จุดดังกล่าวสืบเนื่องจากนายปัญจ๋า ชาลีแสน อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นมือปืน ให้การซัดทอดว่า ดาบตำรวจ ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ เป็นคนติดต่อให้ตนมาฆ่าพระ ในราคา 50,000 บาท โดยดาบตำรวจ ชาญชัยได้ไปรับตัวนายปัญจ๋ามาจากจังหวัดกาฬสินธุ์มาพักอยู่ที่บ้านสวนของดาบตำรวจ ชาญชัยที่ ต.เชียงเพ็ง กระทั่งถึงวันลงมือก่อเหตุ
และภายหลังจากก่อเหตุยิงพระอาจารย์บัณฑิตจนมรณภาพแล้ว นายปัญจ๋าได้รับเงินค่าจ้างก้อนแรกจำนวน 30,000 บาท แล้วหนีกลับเข้าพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังผ่านไป 2 วันดาบตำรวจ ชาญชัยก็ได้นำเงินค่าจ้างที่เหลืออีก 20,000 บาทมาให้ตนที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ดาบตํารวจ ชาญชัยได้หลบหนีข้ามฝั่งลาวไปแล้ว โดยขณะนี้กำลังประสานติดต่อขอตัวมาดำเนินคดี ส่วนตัวผู้จ้างวานตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด ทั้งนี้ สำนวนสอบสวนทั้งหมดจะมีการโอนไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามไปดำเนินการต่อไป
สำหรับวันนี้ (25 มี.ค.) ทางชุดจับกุมได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจะออกปฏิบัติการลดทอนกำลังกลุ่มผู้มีอิทธิพลตามจุดต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดวางแผนทำงาน ส่วนผลการปฏิบัติงานขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อมให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ต้องหาหนีรอดได้
รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า ในเวลาประมาณ 09.10 น. วันเดียวกันนี้ (25 มี.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายปันจ๋า ผู้ต้องหาที่เป็นมือปืนไปทำพิธีขอขมาพระพ่อพระอาจารย์บัณฑิต และแม่ของพระอาจารย์บัณฑิต ที่วัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด หลังจากนั้นจะทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป