ผบ.ตร.ยืดอกรับ คดียิง “พระหมอ” ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง ย้าย 2 บิ๊กนายตำรวจพื้นที่เพราะต้องการให้ทีมสืบสวนทำงานอย่างอิสระ แสดงให้เห็นว่าจริงใจแก้ปัญหา กู้ภาพลักษณ์ทำมานพอสมควรแต่ไม่คืบหน้า ขณะที่ชุดพิเศษคืบหน้าไปมาก ยันไม่ปกป้องช่วยเหลือพวกเดียวกัน ประชาชนสบายใจได้
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ว่า หลังจากส่งทีมสืบสวนชุดพิเศษที่มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุด ลงไปทำคดีสังหารพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด บ้านโนนเดื่อ ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี จากการสืบสวนประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าคดีนี้น่าจะมีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ดังนั้น เพื่อความสบายใจ เพื่อให้ทีมสืบสวนสอบสวนสามารถทำงานได้อย่างอิสระ และแสดงให้เห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา ถึงแม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และก็เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินไปอย่างไม่มีข้อสงสัยของพี่น้องประชาชน ตนได้มีคำสั่งให้ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.บก.กฝ.ตชด. และเป็นอดีต ผบก.ภ.จว.อุดรธานีมาก่อน เป็นผู้ที่กว้างขวาง และมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถมาช่วยงานที่ ศปก.ตร.เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์หากตนหรือผู้บังคับบัญชาท่านใดจะมอบหมายภารกิจพิเศษ หรือภารกิจที่มีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็จะมอบหมายให้ พล.ต.ต.บุญลือไปปฏิบัติ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะเดียวกันได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. และพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.กองบังคับการปราบปราม ทำเรื่องเสนอขอโอนสำนวนการสอบสวนคดีนี้มาให้อยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปรามแทนตำรวจท้องที่ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์กับประชาชนว่ากรณีนี้หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ปกป้องช่วยเหลือตำรวจเหล่านั้น ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ไม่มีช่วยเหลือหรือปกป้องกัน ขอให้ประชาชนสบายใจ เพราะฉะนั้นทีมงานสืบสวนสอบสวนที่ส่งลงไปและก็ทีมงานสืบสวนสอบสวนที่ทางกองปราบปรามตั้งขึ้น จะสร้างความสบายใจให้กับพี่น้องประชาชน ว่าตำรวจจริงจังในการแก้ปัญหา และก็ตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ตำรวจในพื้นที่ไม่มีความสามารถในการคลี่คลายคดีหรือไม่ จึงได้ส่งตำรวจกองปราบปรามลงพื้นที่แทน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เพื่อความสบายใจ เพราะว่าหากปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ทำคดีต่อไป ประชาชนก็อาจเคลือบแคลงใจหรือสงสัยว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่
“เดี๋ยวก็จะมีการกลั่นแกล้ง หรือข่มขู่ทำลายพยานหลักฐาน เพื่อความสบายใจจึงแก้ปัญหาตรงนี้ ทำแบบตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกคนเห็นว่ามีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา และสร้างความอบอุ่นใจและมั่นใจว่า ถ้าเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งดูดาย หรือไม่ให้ความสำคัญ ที่ผ่านมาปล่อยให้พื้นที่ทำมากันเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่ไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ทีมสืบสวนสอบสวนชุดพิเศษที่ส่งลงไปมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนที่ถามว่าพบปัญหาอะไรคดีถึงไม่คืบ ขออนุญาตไม่ตอบ ขณะนี้ผลการสืบสวนคืบหน้าไปเยอะ อาจจะพูดได้เลยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ผมยืดอกรับว่าคดีนี้ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง”
