ปอศ.รวบหนุ่มมาเลเซียพร้อมบัตรเครดิตปลอม 11 ใบ หลังรูดซื้อแอร์เมส 5 ใบ มูลค่า 1.1 ล้านบาท สารภาพสั่งให้เข้าไทยใช้บัตรรูดซื้อให้ได้มากที่สุด แลกลดหนี้และแบ่งเงินส่วนต่างให้
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท รอง ผบก.ปอศ.รรท.ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางค์กูร รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.สิศษ เกตุพันธ์ รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.สิทธิชัย ลีลาสวัสดิ์ รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ ปลาทอง รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่กก. 5 บก.ปอศ แถลงข่าวการจับกุมนายหว่อง เชนเจีย (Mr.WONG CHEN JEAR) อายุ 29 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางบัตรเครดิตปลอม 11 ใบ และกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อแอร์เมส 5 ใบ มูลค่า 1,105,850 บาท โดยจับกุมได้ที่ชั้น 3 พื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สรรักษ์กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 5 บก.ปอศ.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่ามีชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนจีน นำบัตรเครดิตของผู้อื่นมารูดซื้อสินค้าที่ร้าน PMT THE HOUR GLASS ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า เขตปทุมวัน กทม. แต่ไม่สามารถทำรายการได้ ก่อนจะออกจากร้านไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวนจนกระทั่งทราบว่าบุคคลดังกล่าว นายหว่อง เชนเจีย ชาวมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้บัตรปลอมไปรูดซื้อกระเป๋ายี่ห้อแอร์เมส 5 ใบมาแล้ว กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทราบว่านายว่อง เชนเจียกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ กก. 5 บก.ปอศ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านตม.ทอ.กรุงเทพฯ จับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว
นายหว่อง เชนเจีย รับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยอ้างว่าได้รับบัตรจากคนกลางในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของตนและครอบครัวจำนวน 10,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 100,000 บาท โดยคนกลางได้สั่งให้ตนนำบัตรมาที่ประเทศไทย รูดซื้อกระเป๋าแอร์เมสตามใบสั่งให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วนำกลับไปให้ผู้สั่งการเพื่อลดหนี้ทั้งหมด หากมีส่วนต่างก็จะแบ่งเงินให้ด้วย
พ.ต.อ.สรรักษ์กล่าวต่อว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาในประเทศไทยวันที่ 21 มี.ค. และกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศวันที่ 22 มี.ค. โดยก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เคยเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาใช้หรือมีไว้เพื่อใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม โดยประการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป