xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยชอบซื้อทีมฟุตบอลอังกฤษ? / แมวดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

การตกลงปลงใจของ เดชพล จันศิริ หนึ่งในผู้บริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) กับการควักเงินส่วนตัว ซึ่งว่ากันว่าน่าจะมีถึง 30 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยน่าจะประมาณ 1,560 ล้านบาท เพื่อเข้าเป็นเจ้าของทีม "นกเค้าแมว" เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ แห่งลีกแชมเปียนชิป อังกฤษ ส่งผลให้ตอนนี้ในลีกฟุตบอลของประเทศอังกฤษ มีสโมสรที่เป็นของนักธุรกิจคนไทยอยู่ถึง 3 สโมสร ประกอบด้วย เลสเตอร์ ซิตี (พรีเมียร์ลีก), เรดดิง (แชมเปียนชิป) และ เวนส์เดย์ ทีมล่าสุด

โดยสโมสรแห่งนี้ถือว่าเป็นทีมที่เก่าแก่สุดๆ อีกทีมในประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ และลูกหนังโลก ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.1867 เมื่อครั้งอดีตเคยสร้างความเกรียงไกรด้วยการเป็นแชมป์สูงสุด 4 สมัย แชมป์เอฟเอ คพั 3 สมัย แชมป์ลีก คัพ 1 สมัย ที่ผ่านมามีผู้เล่นดังๆ เคยมาค้าแข้งอย่าง คริส วัดเดิล, เดวิด เฮิร์สต์ หรือ เดส วอลเกอร์ ในอดีตอันไกลโพ้น ถ้าใกล้มาหน่อยที่เราคุ้นก็เป็น เปาโล ดิคานิโอ, เบนิโต คาร์บอเน ที่แฟนๆ น่าจะจำได้ ขณะที่ทีมชุดปัจจุบันยังมี คริส เคิร์กแลนด์ อดีตนายทวารคนดังที่เคยผ่านการค้าแข้งกับสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล มาแล้ว ร่วมทีมอยู่ด้วย

สำหรับผลงานในฤดูกาลนี้ ล่าสุดเท่าที่เห็นแข่งไป 28 นัด ชนะ 9 นัด เสมอ 11 นัด แพ้ 8 นัด ยิงได้ 21 ประตู เสีย 25 ประตู มี 38 คะแนน อยู่อันดับ 10 ในลีกรอง ห่างจากอันดับ 6 วัตฟอร์ต ที่เป็นอันดับสุดท้ายสำหรับลุ้นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ลีกสูกสุดอยู่ 9 คะแนน ถ้าตามทฤษฎีก็ถือว่ามีลุ้น แต่พอหันไปมองผลงานการแข่งขันในบ้านแล้ว ชนะแค่ 3 นัด ยิงได้แค่ 7 ประตู เสียถึง 12 ประตู นี่น่าจะบ่งบอกให้รู้กันว่าสิ้นฤดูกาลนี้ เวนส์เดย์ คงไม่พร้อมสำหรับพื้นที่เพลย์ออฟ เพราะผลชนะในบ้านน้อยพอๆ กับทีมในโซนตกชั้นอย่าง มิลล์วอลล์ อันดับ 22 หรือ มากกว่า วีแกน อันดับ 23 รองบ๊วย ที่ชนะในบ้านแค่ 2 นัดเท่านั้น

ขณะที่ทีม เรดดิง ของ สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ที่อยู่ร่วมลีกรองก็ใช่ว่าจะดีเด่อะไร เผลอๆ แย่กว่าด้วยซ้ำเมื่อมีผลงานอยู่ในอันดับ 16 แข่ง 28 นัด มี 34 แต้ม จากผลงานชนะ 9 นัด เสมอ 7 นัด แพ้ 12 นัด ซึ่งทั้งสองทีมของคนไทยก็คงจะต้องอยู่สร้างทีมเสริมกระดูกในเดอะ แชมเปียนชิป กันต่อในฤดูกาลหน้า อีกทั้งไม่แน่ว่าจะได้ต้อนรับ เลสเตอร์ ของ "เจ้าสัวคิงส์เพาเวอร์" ที่อาจต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดด้วยหรือไม่

ที่พูดมาก็เป็นภาพกว้างๆ ของทีมที่มีเจ้าของเป็นคนไทย แต่มีเรื่องที่พวกสื่อฝรั่งอังกฤษสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไม ประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก จากย่านอาเซียน ที่มีเศรษฐีหมื่นล้าน นิยมมาเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลอังกฤษ ที่ว่ากันตามตรง ซื้อมาแล้วมีแต่รายจ่าย ซื้อนักเตะกันปีละตั้ง 2 ครั้ง ช่วงซัมเมอร์ กับปีใหม่ เงินทั้งนั้น แถมยังต้องสร้างอคาเดมีฝึกนักเตะเยาวชนขึ้นมา นี่ก็เงินอีกแล้ว ไหนจะต้องควักเงินปรับปรุงสนาม สร้างความพึงพอใจให้กับแฟนชาวท้องถิ่นอีก ดูแล้วมีแต่เจ๊งกับเจ๊า เพราะทุกวันนี้สโมสรในอังกฤษ ที่ทำเงินได้จริงก็มีแต่ทีมใหญ่ในลีกสูงสุดเท่านั้น ลีกรองนั้นยากจะมีกำไร

พวกสื่อฝรั่งเขาก็วิเคราะห์กันต่อไปว่าสาเหตุที่เศรษฐีไทยไปซื้อทีมฟุตบอลอังกฤษ ก็เพราะเราติดแบรนด์นั่นแหละ ไม่ต่างกับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักเท่าไหร่ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สร้างความภูมิใจให้กับเจ้าของ อันเป็นคนควักกระเป๋าสตางค์ ซึ่งนอกจากจะได้หน้าแล้ว ยังได้เรื่องการค้า ความน่าเชื่อถือของสินค้าตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อเอาโลโก้สโมสรมาวางใกล้ๆ กับสินค้าของเศรษฐีเหล่านั้น เรื่องนี้จะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ เล่าให้ฟังเฉยๆ

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น