xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรแจงสื่อ บูรณะสิ่งปลูกสร้างถูกต้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร แจงสื่อ บูรณะซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างภายในวัดอย่างถูกต้อง ยันกรมศิลปกรไม่เคยแจ้งชัดเจนว่าสิ่งปลูกสร้างใด ขึ้นทะเบียนโบราณสถานบ้าง เป็นเหตุให้มีปัญหากันมาตลอด

วันนี้ (19 มี.ค.) ที่สำนักงานพระธรรมเจดีย์ (ประกอบ ธมฺมเสฏฺโฐ) เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร และ นายวัชรา พรหมเจริญ อดีตผู้อำนวยการเขตธนบุรี ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษาวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ได้ชี้แจงสื่อมวลชนกรณี กรมศิลปกรแจ้งความ สน.บุปผาราม เนื่องจากได้รื้อถอนโบราณสถาน

โดย นายวัชรา กล่าวว่า ทางวัดบูรณะซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ไปด้วยความถูกต้องมีหลักฐานยืนยันทุกอย่าง เริ่มจากประเด็นการขึ้นทะเบียนโบราณสถานที่ทางกรมศิลปากร อ้างว่า ทำตั้งแต่ พ.ศ. 2492 นั้น ขอเรียนว่า การที่กฎหมายจะสามารถบังคับใช้ให้สิ่งปลูกสร้างภายในวัดเป็นโบราณสถานได้ต้องมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และก่อนขึ้นทะเบียนต้องมีหนังสือชี้แจงให้เจ้าของหรือผู้รับผิดชอบสถานที่ทราบก่อน แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการ อธิบดีกรมศิลปากรสมัยนั้นส่งหนังสือขึ้นทะเบียนโบราณสถานมาให้วัดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2492 โดยไม่แจ้งให้ทราบก่อนว่าจะขึ้นทะเบียนสิ่งใดบ้าง ที่สำคัญก็ยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ด้วยเหตุที่ทรัพย์สินหลายอย่างและสิ่งปลูกสร้างหลายประการภายในวัดล้วนเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลาทำให้ทางวัดจำเป็นต้องบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาให้ใช้การได้ ให้เหมาะสมกับความที่เป็นวัดสำคัญทางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งของฝั่งธนบุรี โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เราก็มีการทำหนังสือไปขออนุญาตกับกรมศิลปากร และปลัดกระทรวงวัฒนธรรม แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา การที่ นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากรคนปัจจุบันอ้างว่า วัดไปเคยบอกกล่าวและละเมิดกฎหมายจึงไม่เป็นความจริง

นายวัชรา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ทางวัดมีปัญหากับกรมศิลปากรมาโดยตลอด เมื่อปี พ.ศ. 2551 เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเคยถูกตำรวจจับไปพิมพ์ลายนิ้วมือส่งศาล แต่ท้ายที่สุดอัยการก็สั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด เนื่องจากเรามีหลักฐานไปยืนยันว่าทำการบูรณะซ่อมแซมเพราะมีเหตุผลสำคัญจริงๆ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากทางกรมศิลปากร จากนั้นทางวัดจึงไปร้องขออำนาจศาลปกครอง ให้รับพิจารณาและสั่งการให้กรมศิลปากรยุติการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากคำสั่งขึ้นทะเบียนโบราณสถานนั้นไม่สามารถบังคับใช้ได้เพราะยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะนี้เรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลปกครองสูงสุด โดยเมื่อวานนี้ก็ได้เดินทางไปที่ศาลปกครองสูงสุดอีกครั้งเพื่อขอความเมตตาให้ศาลเร่งรัดพิจารณาโดยขณะนี้ยังรอผลการดำเนินการอยู่ ในขณะเดียวกัน ระหว่างที่ทางวัดเดินทางไปขอความเมตตาจากศาลปกครองในช่วงนั้น ท่านเจ้าอาวาสก็ทำหนังสือขอพระราชทานพระมหากรุณาให้โครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารเขตพุทธาวาส อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผ่านสำนักราชเลขาธิการด้วย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 54 ท่านผู้หญิง บุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ มีหนังสือตอบรับกลับมาว่า พระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระมหากรุณาให้โครงการดังกล่าวอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้ว โดยทรงพระราชทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ทำการบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งปลูกสร้างสำคัญๆ อาทิ หอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ พระอุโบสถ พระวิหารหลวง และพระวิหารน้อย ด้วยงบประมาณมากกว่า 700 ล้านบาท ดังนั้นทางวัดจึงเร่งทำการบูรณะสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ควบคู่กันไปโดยไม่คิดว่าจะมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นมาอีก เรายืนยันจะเดินหน้าพัฒนาสิ่งปลูกสร้างต่อไป เพราะในปี พ.ศ. 2560 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ก็จะถึงกำหนดงานสมโภชน์ครบรอบ 190 ปีแล้ว ที่สำคัญการดำเนินงานบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งหมด ก็ทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ตามหนังสือที่ ขอพระราชทานพระมหากรุณาไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554
อธิบดีกรมศิลปกรแจ้งความตำรวจสน.บุปผาราม (แฟ้มภาพ)


กำลังโหลดความคิดเห็น