ตำรวจ ปคม.แถลงจับกุมผู้ต้องหาข่มขืนลูกตัวเองมานานกว่า 2 ปี แฉพฤติกรรมเก็บกด อาจจะเคยกระทำแบบนี้กับญาติตัวเองมาก่อน ขณะที่ “ประวุฒิ” เผยความคืบหน้าฆาตกามที่นครปฐม ล่าสุดสุ่มตรวจดีเอ็นเอไปแล้วกว่า 100 ราย ยังไม่มีเบาะแสมากพอ ขออย่ากำหนดกรอบ หากเร่งจะส่งผลเสีย
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดาราพิธีกรชื่อดังในฐานะประธานองค์กรทำดีร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายรัชชานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. จับกุมได้ที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า หลังได้รับการประสานจาก น.ส.ปนัดดา ว่านายรัชชานนท์ ข่มขืนบุตรสาวของตัวเองต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 ปี จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นนายรัชชานนท์มีอาชีพเป็นช่างทำผ้าม่าน หลังจากเลิกกับภรรยาได้นำบุตรสาว 3 คนไปดูแล จนกระทั่งเกิดความผูกพันใกล้ชิด และได้ข่มขืนบุตรสาวคนโตวัย 12 ปี เป็นเวลาถึง 2 ปี หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปที่สำนักสงฆ์ป่ามะม่วงหิมพานต์ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เพื่อเตรียมจะบวชพระหนีความผิด ตำรวจจึงแจ้งข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน แม้เด็กนั้นจะยินยอมก็ตาม ทั้งนี้ ตำรวจยังให้ข้อมูลว่าพฤติกรรมของผู้ต้องหาเป็นคนเก็บกด มีโลกส่วนตัวสูง ชอบเล่นเกม เพราะแต่งงานมีบุตรตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ไม่ดื่มสุราหรือเสพยาเสพติด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะเคยก่อเหตุกับญาติของตัวเองซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ หลังจากนี้จะส่งผู้ต้องหาให้แพทย์จิตเวชตรวจสภาพจิตด้วย
ด้าน น.ส.ปนัดดากล่าวว่า ปัจจุบันมีข่าวการข่มขืนกระทำชำเราเครือญาติมากขึ้น สะท้อนถึงระบบคุณธรรม จริยธรรม ที่เสื่อมถอยลง ทางหนึ่งที่ทำได้ขณะนี้ จึงขอให้ตำรวจเร่งรัดดำเนินคดี และขอให้สื่อมวลชนประชาสัมพันธ์โทษของการกระทำลักษณะนี้ว่ามีอัตราโทษที่สูงกว่ากรณีปกติ ส่วนการผลักดันร่างกฎหมายข่มขืนขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 3
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวถึงผลการตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 2 คนล่าสุดซึ่งพยานยืนยันว่ามีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ก่อเหตุ ที่ชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่งให้ตรวจสอบ พบว่ายังไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนและฆาตกรรมต่อเนื่องผู้หญิงสูงวัย โดยคดีนี้ตำรวจตีวงการสอบสวนในวงกว้างมีตรวจสอบผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ไปแล้วกว่า 100 ราย พร้อมยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว และยังไม่มีเบาะแสมากนัก มีเพียงรอยเท้าและลายนิ้วมือแฝง อีกทั้งไม่พบว่ามีประวัติอาชญากรรมจึงยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาการทำงานได้ เพราะหากกำหนดเงื่อนเวลาจะส่งผลเสียหายมากกว่า