เอเจนซี - ศาลสูงจีนทบทวนคดีประหารชีวิตหนุ่มมองโกเลีย เมื่อ 18 ปีก่อน (พ.ศ. 2539) พบข้อผิดพลาดในการพิจารณา พิพากษาและประหารชีวิตผิดคน
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีจีน รายงานคำแถลงของศาลสูงจีน เมื่อเช้าวันจันทร์ (15 ธ.ค.)ว่า ได้วินิจฉัยคดีผิดพลาด เป็นเหตุให้พิพากษาประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ โดยนายฮักจิลตู หนุ่มวัย 18 จำเลยในคดีข่มขืนฆ่า เมื่อปี 2539 ซึ่งถูกศาลประชาชนโฮฮอต เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน พิพากษาและประหารชีวิตไปเมื่อปี 2539 นั้น ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เพราะหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปเกือบ 10 ปี กลับพบคนร้ายตัวจริงซึ่งถูกจับได้ในคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง โดยเป็นผู้สารภาพเองว่า คือผู้กระทำความผิดในคดีที่นายฮักจิลตู ถูกตัดสินประหารชีวิตไปแทนตัวเอง
ศาลสูงประจำเขตปกครองตนเองมองโกเลียในได้ยอมรับว่า การพิจารณาคดีและประหารชีวิตนายฮักจิลตู มีข้อผิดพลาด ไม่ถูกต้อง และปราศจากพยานหลักฐานเพียงพอ
ไชน่าเดลี รายงานว่าคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันหนึ่งของปี 2539 ที่บาร์เหล้าแห่งหนึ่งในเขตโฮฮอต มองโกเลียใน โดยคืนนั้นนายฮักจิลตู ได้ดื่มเหล้ากับเพื่อนของเขา หยัน เฟิง และได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงดังออกมาจากห้องน้ำ
ฮักจิลตู และหยัน จึงเดินเข้าไปดูในห้องน้ำ ก็พบศพสตรีคนหนึ่งในสภาพเปลือยครึ่งท่อน นายฮักจิลตู ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลับกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวทั้งสองคนเป็นผู้ต้องหา และนำตัวไปสอบสวนทันที
หยัน เฟิง เพื่อนของฮักจิลตู กล่าวว่า ตำรวจได้แยกเขากับเพื่อนไปสอบสวนคนละห้อง ขู่ทรมานให้สารภาพ และบอกความจริง โดยตลอดคืนนั้น หยัน ได้ยินเสียงร้องของฮักจิลตูที่ถูกซ้อมทรมานในห้องสอบสวนฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับหยันว่า เพื่อนของเขาได้สารภาพหมดแล้วว่าเป็นผู้กระทำ และต้องการให้เขาเป็นพยานฯ
ในวันรุ่งขึ้นนายหยัน ได้ถูกปล่อยตัวเพียงคนเดียว เขาได้เห็นนายฮักจิลตู นั่งในห้องแคบ ถูกสวมกุญแจมือและสวมหมวกกันน็อค เพื่อป้องกันไม่ให้ฆ่าตัวตาย
รายงานข่าวกล่าวว่า ฮักจิลตู ถูกประหารชีวิตภายใน 61 วันต่อมา หลังจากถูกควบคุมตัว ทั้งที่คดีนี้ไม่มีพยานหลักฐานที่เพียงพอ ส่วนเจ้าหน้าที่สืบสวนฯ กลับได้รับความดีความชอบเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นาย จ้าว จื่อหง ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องรายหนึ่งถูกจับกุม เมื่อปีพ.ศ. 2548 และได้สารภาพเองว่า เขาคือฆาตกรตัวจริงของคดีที่นายฮักจิลตู ถูกตัดสินประหารชีวิต ประกอบกับคำร้องขอของครอบครัวนายฮักจิลตูให้มีการพิจารณาคดีใหม่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกชายวัย 18 ปีอีกครั้ง ศาลประชาชนสูงสุดจึงได้พลิกคดีฯ รื้อฟื้น สำนวนฟ้อง และการพิจารณาของศาลในเวลานั้น จนกระทั่งพบความผิดพลาดประหารชีวิตผิดคน
จ้าว เจี้ยนผิง รองประธานศาลประชาชนสูงสุด ได้แถลง (15 ธ.ค.) แสดงความอาลัยและเสียใจกับครอบครัวของฮักจิลตู ในความผิดพลาดร้ายแรงนี้ และจะยึดคดีนี้เป็นอุทาหรณ์ในการตัดสินคดีประหารชีวิตของศาลยุติธรรม พร้อมกันนี้ ศาลสูงจีนได้มอบเงินชดเชยความสูญเสียให้แก่ครอบครัวฮักจิลตู 30,000 หยวน เป็นเบื้องต้นฯ
เหมี่ยว ลี่ ทนายความของฮักจิลตู ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จะติดตามเรียกร้องค่าเสียหายเพื่อชดใช้และอำนวยให้เกิดความเป็นธรรมกับครอบครัวของฮักจิลตูผู้บริสุทธิ์ต่อไป
รายงานของมูลนิธิตุ้ยฮวา (The Dui Hua Foundation) หน่วยงานสิทธิมนุษยชน สหรัฐฯ ระบุว่า การให้อำนาจในการทบทวนฎีกาโทษประหารโดยศาลประชาชนสูงสุด ตั้งแต่เมื่อปี 2550 เป็นต้นมา เป็นปัจจัยสำคัญของกระบวนการยุติธรรมจีน ที่ทำให้จำนวนผู้ถูกประหารชีวิตลดลงจากอดีตอย่างมาก ประเมินว่ามีนักโทษในจีนถูกประหารชีวิตราว 2,400 คน ในปี 2556 ขณะที่เมื่อปี 2545 จีนประหารชีวิตนักโทษถึง 12,000 คน โดยปีที่แล้วมีการฎีกาโทษประหารชีวิตพร้อมทบทวนหลักฐานการพิจารณาฯ โดยศาลสูงสุดมากกว่าร้อยละ 39