xs
xsm
sm
md
lg

ฝากขัง-ค้านประกันหลาน “พงศ์พัฒน์” อ้างเบื้องสูงวิ่งเต้นคดียาบ้า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจกองปราบฯ ฝากขัง-ค้านประกัน “เอกชัย” หลาน “พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์” แอบอ้างเบื้องสูง รีดทรัพย์เหยื่อวิ่งเต้นคดียาบ้า 1.3 ล้านบาท ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง



ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) พ.ต.ท.สมพงศ์ มั่นหมาย พนักสอบสวนกองปราบปราม ควบคุมตัวนายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีแอบอ้างเบื้องสูง อยู่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-15 ก.พ. 2558 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้กระทำผิดจริง

คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2551 นายไพฑูรย์ เนมีแสน บุตรชายของนาย บันเทิง เนมีแสน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแพ จ.ราชบุรี จับกุมดำเนินคดีในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างที่นายไพฑูรย์ เนมีแสน ถูกควบคุมในเรือนจำพิเศษจังหวัดราชบุรี มีผู้แนะนำให้นายบันเทิง เนมีแสน รู้จักกับนายเอกชัยผู้ต้องหาซึ่งอ้างว่าเป็นหลานของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี อดีตพระวรชายา สามารถใช้อำนาจบารมีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ช่วยเหลือนายไพฑูรย์ให้ได้รับการประกันตัวและหลุดพ้นจากคดีอาญาได้ โดยผู้ต้องหาได้เรียกค่าตอบแทนในการช่วยเหลือเป็นเงิน 1,300,000 บาท นายบันเทิงเชื่อว่าผู้ต้องหาสามารถช่วยเหลือบุตรชายของตนเองได้จึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปมอบให้ผู้ต้องหาที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อประมาณวันที่ 22 ธ.ค. 2551 เวลากลางวัน ต่อมาปรากฏว่าศาลจังหวัดราชบุรีได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกนายไพฑูรย์ เนมีแสน ในคดีอาญา ต่อมานายบันเทิง เนมีแสนบิดาเห็นว่าการที่ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อมาให้การช่วยเหลือบุตรตนเองให้พ้นจากการกระทำผิดกฎหมายเป็นการกระทำที่มิบังควร และทำให้สถาบันเบื้องสูงเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาตามกฎหมายนี้

หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้นำผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพักอาศัยที่บ้านเลขที่ 67/67/1-3 หมู่ 6 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี พบของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน รวม 12 รายการ เช่น อาวุธปืนลูกซองยาว สีดำ ทะเบียน รบ.1/7736 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม.ยี่ห้อเทารัส 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .38 ยี่ห้อโคลท์ 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด 9 มม.รวม 27 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 17 นัด และแมกกาซีน รวม 6 อัน โดยอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหา และผู้ต้องหาไม่เคยได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนของกลางดังกล่าว จึงตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เหตุเกิดที่ ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2551 เวลากลางวัน และที่ ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2558 เวลา 14.30-16.30 น.

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายเอกชัยผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 254/2558 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2558 โดยกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, เรียก รับ ผลประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน โดยวิธีการทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนเอง ให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือโทษแก่บุคคลใด ต่อมาได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของผู้อื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 143 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 8 และ 72 วรรคสาม และพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบกำหนด 48 ชั่วโมง ในวันที่ 5 ก.พ. 2558 เวลา 11.00 น.และได้ทำการสอบสวนมาโดยตลอด หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากยังต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และต้องรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา ด้วยความจำเป็นดังกล่าว จึงขออำนาจศาลฝากขัง เป็นเวลา 12 วัน หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้


กำลังโหลดความคิดเห็น