xs
xsm
sm
md
lg

“ถวิล” แจงที่มาเงิน 80 กว่าล้านเป็นเงินมรดก ตร.เตรียมสอบ ผอ.คลังในเรือนจำอีกครั้ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทนายความพรรคเพื่อไทย
อดีตอธิการบดี สจล.แจงที่มาทรัพย์สินกว่า 80 ล้านเป็นเงินมรดกและได้มาก่อนดำรงตำแหน่ง ยันผู้บริหารมีอำนาจเซ็นบัญชีแบงก์ ตามที่ฝ่ายการคลังเสนอมาเท่านั้น ตร.เตรียมเข้าสอบปากอดีต ผอ.ส่วนการคลังที่ทัณฑสถานหญิงอีกครั้ง



วันนี้ (27 ม.ค.) นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวภายหลังจากเข้าให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมงว่า วันนี้ได้นำเอกสารเข้าชี้แจงบัญชีทรัพย์สินที่ตนเคยยื่นต่อ ป.ป.ช.นานแล้วตั้งแต่ปี 2553-2557 มาให้พนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์สินทั้งก่อนและหลังเข้ารับตำแหน่งอธิการบดี สจล. ซึ่งในปี 2553 ตนได้รับมรดกที่ดินจากมารดาเป็นที่ดินย่านปากเกร็ด-บางบัวทอง มูลค่า 35 ล้านบาท แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปราคาที่ดินมีการปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็น 80 กว่าล้านบาท ส่วนเงินจำนวนหลักล้านที่ตำรวจสงสัยนั้นเป็นเงินที่ตนได้ชดเชยหลังจากเกษียณอายุราชการเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 จำนวน 12 เท่าของเงินเดือน ประมาณ 1.2 ล้านบาท รวมกับเงินที่ตนมีอยู่เป็น 2 ล้านบาท ทั้งนี้หลังจากเข้าให้ปากคำในวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการนัดหมายเพิ่ม แต่ตนพร้อมเข้าให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนได้ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ว่ามีอดีตผู้บริหารของ สจล.คนหนึ่งเซ็นปิดบัญชีธนาคารจำนวน 3 บัญชี หลังจากที่ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วราว 1 ปี ทั้งที่เงินในบัญชีดังกล่าวไม่หลงเหลือแล้วเพราะถูกโอนถ่ายไปยังบัญชีของบุคคลอื่น นายถวิลตอบว่า ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้พูดถึงในส่วนนี้ ปกติแล้วบัญชีจะมีการปิด-เปิดอยู่เป็นประจำ ทุกครั้งที่ปิดจะมีการเปิดบัญชีใหม่ควบคู่กันไปทุกครั้งในนาม สจล. โดยมีตนหรือผู้ที่มีอำนาจเป็นคนเซ็น แต่ยืนยันว่าไม่เคยมีการเซ็นปิดบัญชีย้อนหลัง เพราะตนเองมีหน้าที่เพียงเซ็นอนุมัติหรือไม่อนุมัติตามที่ฝ่ายการคลังเสนอมาเท่านั้น

“ยอมรับว่าตกใจที่รู้ว่านางอัมพรมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมา 1 ปี 3 เดือน ไม่เคยระแคะระคายเลย มีเรื่องเดียวคือเรื่องเจ็บป่วยของนางอัมพร ซึ่งเจ้าตัวลางานบ่อยและเคยมาขอลาออก แต่ผมก็ได้ระงับไว้ และที่ตกใจคือเรามีฝ่ายตรวจสอบ 3 ระดับ ตั้งแต่ภายใน ภายนอก และ สตง.เองก็ไม่เจอ ยอมรับว่าไว้ใจนางอัมพรมากเกินไป และส่วนตัวไม่อยากเกี่ยวข้องกับเงินการเงินเนื่องจากไม่มีความถนัดและเกรงว่าจะถูกครหา” นายถวิลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้จักกับนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายถวิลตอบว่า ไม่เคยรู้จักผู้ต้องหาคนอื่นในคดีเลยนอกจากนางอัมพร น้อยสัมฤทธิ์ ผอ.การคลังในฐานะลูกน้อง และนายทรงกรด ศรีประสงค์ รู้จักในฐานะ เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อย สจล.เพียง 2 คนเท่านั้น ส่วน “บอส” ที่มีคนกล่าวถึงกันนั้นตนไม่รู้เรื่อง ตัวบอสในที่นี้ต้องเป็นคนโกงเก่ง ยืนยันว่าไม่ใช่ตนแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญนายถวิลมาชี้แจงที่มาของทรัพย์สินตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดี สจล.ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้ได้ชี้แจงไปแล้วแต่ยังไม่ชัดเจน ส่วนเงิน 80 ล้านบาทที่เคยพบความผิดปกติก่อนหน้านี้ ตรวจสอบแล้วเป็นเงินที่ได้มาก่อนจะดำรงตำแหน่งซึ่งได้มาจากทางมรดก และการประกอบกิจการอพาร์ตเมนต์ และเงินที่ได้จากการที่เป็นบอร์ดบริหาร ส่วนเอกสารทางการเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์นำมามอบให้เมื่อวันที่ 26 มกราคมนั้น เป็นสำเนาเอกสารการโอนเงิน แม้จะมีลายเซ็นของทั้งฝ่ายการคลัง และฝ่ายบริหาร แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบลายเซ็นได้ว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะเป็นเพียงสำเนาเอกสาร ขณะนี้ทางตำรวจยังคงต้องรอแคชเชียร์เช็คจากธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย

พ.ต.อ.ณษกล่าวต่อว่า ส่วนบุคคลทั้ง 26 คนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธเส้นทางการเงิน และออกหมายเรียกมาพบนั้น ยังเหลืออีก 5-6 คนที่ยังไม่ได้เข้ามาพบซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียกซ้ำเพื่อให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ ในวันที่ 28 มกราคม ทางพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีตผู้อำนวยการส่วนการคลังที่ทัณฑสถานหญิงอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น