ตร.ประสานขอเอกสารการโอนเงิน สจล.ตัวจริงเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย และกสิกรไทยเพิ่ม ชี้หากพบว่าคนที่เซ็นชื่อไม่ได้มีอำนาจถือเป็นความผิด นัด “ถวิล” อดีตอธิการบดีเข้าให้ปากคำพรุ่งนี้
วันนี้ (26 ม.ค.) พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนคดีลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมานายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัยของธนาคารไทยพาณิชย์ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำเอกสารสำคัญเกี่ยวกับบัญชีของ สจล.มามอบให้ ซึ่งหลังจากการตรวจสอบพบว่าเอกสารการโอนเงินในบัญชีของ สจล.ไปยังบัญชีของผู้ต้องหารายอื่นๆ เป็นเพียงสำเนาเท่านั้น ไม่ใช่เอกสารฉบับจริง โดยเอกสารฉบับจริงอยู่ที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกร เจ้าหน้าที่จึงประสานขอเอกสารฉบับจริงจากธนาคารทั้งสองได้รับการยืนยันจากธนาคารกรุงไทยว่าจะรีบนำเอกสารดังกล่าวมาให้ก่อนสิ้นเดือนนี้ ขณะที่ทางธนาคารกสิกรขอเวลารื้อค้นเอกสาร และยังไม่สามารถระบุวันส่งมอบได้
พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า หากได้เอกสารฉบับจริงมาจะสามารถระบุได้ว่ามีบุคคลใดเป็นผู้เซ็นชื่อในการโอนเงินของ สจล.บ้าง และจะทำให้คดีสามารถคลี่คลายได้เร็วยิ่งขึ้นและหากพบว่าคนที่เซ็นชื่อไม่ได้มีอำนาจ ก็ถือเป็นความผิดแน่นอน เพราะเมื่อไม่มีอำนาจ คุณเซ็นได้อย่างไร แต่หากคนเซ็นเป็นบุคคลที่มีอำนาจอยู่แล้ว ก็จะสามารถระบุตัวบุคคลเพื่อเรียกมาสอบปากคำได้ทันที
พ.ต.อ.ณษกล่าวต่อว่า สำหรับนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล.นั้นได้ติดต่อขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ เวลา 14.00 น. แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สะดวกเพราะนัดเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ไว้แล้ว จึงขอเลื่อนนัดนายถวิลให้ปากคำในวันที่ 27 มกราคม เวลา 10.00 น.แทน อย่างไรก็ตาม การนัดมาให้ปากคำในครั้งนี้เป็นการนัดนายถวิลในฐานะพยานเท่านั้น ยังไม่ได้ตั้งข้อหาแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพบการโอนเงินบัญชีของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญจากธนาคารไทยพาณิชย์ ไปยังธนาคารกสิกร จำนวนกว่า 300 ล้านบาทนั้น พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เคยตรวจพบการโอนเงินจากบัญชีของนายกิตติศักดิ์จริงทราบเพียงว่าเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นจำนวนเงินเท่าใด โดยการโอนเงินดังกล่าวเป็นการโอนเมื่อปี 2556 ทั้งนี้จากการตรวจสอบทำให้เชื่อได้ว่าเงินดังกล่าวน่าจะเป็นเงินของ สจล.
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. กล่าวว่า ได้เตรียมประสานให้นายถวิล เข้าให้ปากคำครั้งที่ 3 โดยจะสอบถามในประเด็นเอกสารรายงานทรัพย์สินต่อสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่นำมามอบให้พนักงานสอบสวนเมื่อครั้งที่แล้วแต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวจึงจำเป็นต้องเรียกนายถวิลเข้าชี้แจงเพื่อความกระจ่างอีกครั้ง