กองปราบเรียก “ถวิล พึ่งมา” อดีตอธิการฯ สจล. แจงที่มาของทรัพย์สิน 86 ล้าน เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกรายหลังพบมีเงินโอนเข้าบัญชีเจ้าตัว 6.2 ล้าน
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. กล่าวถึงคดีลักเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่า ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้เรียกบรรดาผู้ที่มีรายชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวน 29 ราย โดยแบ่งนัดกันมาเป็นชุดๆ ละประมาณ 5 ราย ตั้งแต่วันที่ 19 - 27 ม.ค. เพื่อมาสอบปากคำรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเส้นทางการเงินว่าทำไมถึงโอนเข้ามาและมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ซึ่งก็มีบางรายได้เข้าให้รายละเอียดกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้รายละเอียดว่า เงินที่นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด โอนให้นั้น เป็นเงินที่เกิดขึ้นมาจากการพนัน
พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า ภายในวันจันทร์และอังคารนี้ พนักงานสอบสวนได้นัดให้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ส่งตัวแทนเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้รายระเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ให้ นายทรงกลด ศรีประสงค์ ลาออก พร้อมเพื่อนพนักงานที่สนิท รวมทั้งทางฝ่ายของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ว่า ทำไมถึงรับนายทรงกลด เข้าไปเป็นผู้จัดการธนาคาร ทั้งที่น่าจะมีการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครก่อน รวมทั้งเรื่องการทำงานที่ผิดปกติในช่วงที่นายทรงกลดเป็นผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยาด้วย ทั้งนี้ หลังจากที่ให้พนักงานสอบสวน เรียกตัวเพื่อนสนิทที่โดนให้ออกและลดขั้น เพื่อมาสอบรายละเอียดนั้น ขณะนี้ยังติดตามตัวอยู่ ชุดทำงานยังไม่มีข้อมูลเข้ามาว่าจะได้ตัวมาสอบรายละเอียดเมื่อไหร่ แต่ได้กำชับไปว่าให้ติดตามตัวมาให้พนักงานสอบสวนสอบถามรายละเอียดให้ได้
พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่อง “บอส” ที่ นายภาดา บัวขาว ให้การไว้กับชุดสืบสวน ยอมรับว่า จากการสอบสวนยังไม่ถึง ชุดทำงานด้านสืบสวนอาจจะมีข้อมูลมากกว่า แต่ขั้นตอนของการสอบสวนยังไม่ถึง แต่พอจะบอกได้ว่า มีผู้ที่เป็น “บอส” อยู่จริง ทั้งนี้ จะต้องสอบเส้นทางการเงินของพนักงานธนาคารเสียก่อน ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งทำงานกันอยู่ คาดว่าในอีกไม่นานนี้ก็คงจะรู้ว่า “บอส” ที่พูดถึงเป็นใคร
รายงานข่าวแจ้งว่า เร็วๆ นี้ พนักงานสอบสวนจะมีการทำหนังสือเรียก นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เข้าชี้แจงกรณีทรัพย์สิน 86 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 32 ล้านบาท ที่ดิน 42 ล้านบาท ยานพาหนะ 8 ล้านบาท เงินฝากและทรัพย์สินอื่นๆ อีก 4 ล้านบาท ที่รายงานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เมื่อปี 2557 ซึ่งพนักงานสอบสวนจะให้ นายถวิล ชี้แจงถึงทรัพย์สินที่ได้มาว่าได้มาอย่างไรและมาตั้งแต่ปีไหน ก่อนหรือหลังมีการลักเงิน สจล.
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่า มีผู้เข้าข่ายกระทำความผิดในคดีดังกล่าวเป็น อีก 1 ราย คือ นายสุรภพ ตั้งประดิษฐ์ ซึ่งพบว่าเมื่อปี 2556 ได้มีเงินโอนมาจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้างบิ๊กซี สุวินทวงศ์ ของ สจล. เข้าบัญชีของ นายสุรภพ จำนวน 6.2 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขอหมายจับต่อไป ส่วน นายสุรภพ จะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายอื่นหรือไม่นั้น คงต้องรอการสืบสวนสอบต่อไป