กองปราบปรามออกหมายเรียกอีก 26 ราย เอี่ยวโกงเงิน สจล. เผยพนักงาน “มัทธุจัด” ให้การเป็นประโยชน์ โอนเงินตามคำสั่ง “กิตติศักดิ์” เท่านั้น ด้านอาจารย์ สจล.ยันเงิน 5.5 ล้านที่รับการโอนจาก ผจก.แบงก์กรุงศรีเป็นเงินส่วนตัว เคยให้ “ทรงกลด” ไปลงทุน 5 ปีก่อนแล้วทวงคืนเท่านั้น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (13 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีฉ้อโกงเงินสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่าล่าสุดจากการตรวจสอบและสรุปจำนวนยอดเงินที่หายไป พบว่าหายไปทั้งสิ้น 1,474 ล้านบาท จากบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ 5 บัญชี ส่วนการเรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) นายสุกฤษ เขียวนันใจ พนักงานบริษัท มัทธุจัด จำกัด และคนดูแลสถานบันเทิงสตรีทผับของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
จากการสอบปากคำของนายสุกฤษทราบว่าเป็นผู้จัดการสตรีทผับ มีหน้าที่ดำเนินการเรื่องต่างๆ ของสตรีทผับ ตั้งแต่เรื่องก่อสร้าง พบว่าใช้เงินลงทุนถึง 100 ล้านบาท ก่อสร้างเมื่อเดือน ก.พ. 57 และเปิดบริการในกลางปี ค่าใช้จ่ายต่างๆ นายกิตติศักดิ์จะเป็นคนโอนเงินให้นายสุกฤษเพื่อนำไปจ่ายเกี่ยวกับค่าก่อสร้าง และยังมีการโอนเงินให้กับบุคคลต่างๆ ตามคำสั่งของนายกิตติศักดิ์
ทั้งนี้ นายสุกฤษไม่ทราบว่าเงินที่นายกิตติศักดิ์สั่งให้โอนไปให้บุคคลต่างๆ เป็นค่าอะไร โดยจากการสอบปากคำยังไม่พบข้อพิรุธในตัวนายสุกฤษ และให้การเป็นประโยชน์ ได้ข้อมูลเยอะ เงินที่เอามาฟอกมาลงทุนในสตรีทผับ 100 ล้านบาท บริษัท มัทธุจัด จำกัด ที่ให้สินเชื่อแก่ผู้ซื้อรถก็มีรถที่มาเข้าไฟแนนซ์เยอะ มีเงินหมุนเวียนในบริษัทหลายสิบล้านบาท
พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า วันนี้ได้ออกหมายเรียกบุคคลที่พบว่าได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีมาสอบปากคำเพื่อพิสูจน์ทราบถึงที่มาที่ไปของเงินจำนวน 26 ราย โดยนัดให้ทยอยกันมาให้ปากคำระหว่างวันที่ 19-27 ม.ค. โดยทั้ง 26 รายเป็นพนักงานบริษัทต่างๆของนายกิตติศักดิ์ทั้ง 7 บริษัท กลุ่มเครือญาติ รวมแม่นายกิตติศักดิ์ ที่ตรวจสอบแล้วพบว่าได้รับโอนเงินจากนายกิตติศักดิ์ 8 ล้านบาท นอกนั้นเป็นน้องสาว แฟนน้องสาว คนที่สนิท และกลุ่มผู้ที่ได้รับการโอนเงินจาก สจล. บุคคลต่างๆ เหล่านี้พบว่าได้รับการโอนเงินตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท
ส่วนการเรียกอาจารย์ สจล.คนหนึ่งมาสอบปากคำหลังพบว่าได้รับการโอนเงินจากนายทรงกลด ศรีประสงค์ ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเงินที่โอนมาจากบัญชีของ สจล.นั้น อาจารย์คนดังกล่าวได้เข้าให้ปากคำเบื้องต้นแล้ว กรณีที่ได้รับโอนเงิน 5.5 ล้านบาทจากนายทรงกลด โดยระบุว่าเป็นเงินส่วนตัวที่เคยให้นายทรงกลดไปลงทุน 5 ล้านบาทเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ซึ่งนายทรงกลดมาชักชวนให้ลงทุน แต่ผ่านมา 5 ปีไม่มีความเคลื่อนไหวจึงได้ทวงถาม นายกรงกลดจึงได้โอนเงินมาให้ 5.5 ล้านบาท ตอนนี้พนักงานสอบสวนรอเอกสารหลักฐานยืนยันถึงที่มาที่ไปของเงินว่าเป็นไปตามที่ให้การหรือไม่ หากไม่มีมายืนยันตามที่กล่าวอ้างก็ต้องส่งให้ ปปง.ทำการอายัดทั้ง 5.5 ล้านบาท เพราะถือว่าเป็นเงินของ สจล.
พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า ส่วนการติดตามจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ ตามกำหนดจะต้องเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 12 ม.ค. แต่จากการประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่พบว่านายกิตติศักดิ์เดินทางเข้าประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการติดตามจับกุมตัวได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่เตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย 1. นางระดม มัทธุจัด 2. น.ส.จุฑารัตน์ ปัดภัย 3. นายสุกฤษ เขียวนันใจ 4. นายจักรี ปัดภัย 5. น.ส.โสมจำรัส แจ่มจำรัส 6. น.ส.วันเพ็ญ นิ่มเรือง 7. นายองอาจ อภิญญายรรยง 8. น.ส.เปลียว แก้วด่านจาก 9. นายพรชัย ธาราเจริญชัย 10. น.ส.อรกัญญา ศิวัชกมลกร
11. นายภาวัช ภัคคชวัจน์ 12. น.ส.จิตรานุช ปานประชาติ 13. นายศิริชัย มธุระเวช 14. น.ส.บุญมี นิลจันทร์ 15. น.ส.หทัยทิพย์ เพาะปลูก 16. นายอภิชัย ตั้งคีรีพิมาน 17. นางรุ่งนภา จิตตั้งสกุล 18. นายณรินทร์ เชยวัดเกาะ 19. นายธระพงศ์ ธีรมหานนท์ 20. นายธีระยุทธ สหพรอุดมการณ์
21. น.ส.ณภัค รอดอินทร์ 22. นายเสกสิทธิ์ ทิพย์จินดาชัย 23. น.ส.จุฑามาศ เจริญชัยสกุลสุข 24. น.ส.วารินีย์ ปรีกินดา 25. น.ส.กรรณีการ์ สีทาสร้อย และ 26. นายวรชาติ เบียซิน