xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายเรียกครู สจล.พบมีเงินโอนเข้าบัญชีเพิ่มอีก 10 ราย มาสอบปากคำ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
ตร.ส่งกำลังรอรวบ “กิตติศักดิ์” ตัวการสำคัญลักเงิน สจล.ที่คาดว่าจะเดินทางกลับมาวันนี้ รู้ตัวที่ซ่อนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 รายแล้ว พร้อมออกหมายเรียกอาจารย์ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินเข้าบัญชีเพิ่มอีกประมาณ 10 คนมาสอบปากคำเพิ่ม

วันนี้ (12 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลักเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ออกหมายจับผู้ต้องหาล่าสุดเพิ่มอีก 2 ราย ที่ผ่านสามารถติดตามจับกุมมาได้แล้ว 1 ราย คือ นายภาดา บัวขาว ส่วนอีก 1 ราย คือ นายธวัชชัย ยิ้มเจริญ ที่ยังหลบหนีอยู่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามจับกุมก็เฝ้าติดตามตัวอยู่ นอกนั้นก็เหลือนายสมพงษ์ สหพรอุดมการ ที่คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ และนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญที่หลบหนีอยู่ที่ฮ่องกง ตามกำหนดแล้วนายกิตติศักดิ์จะต้องกลับประเทศไทยในวันนี้ ตนก็มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.ประสานกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าดูอยู่

พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า หากตัวนายกิตติศักดิ์กลับเข้ามาเมื่อไหร่ก็ให้นำตัวมาดำเนินคดี ส่วนนายธวัชชัยกับนายสมพงษ์คิดว่าน่าจะเตรียมตัวเข้ามอบตัว แต่ถ้าในวันสองวันนี้ยังไม่เข้ามอบตัวแล้วตำรวจยังไม่จับตนว่ามันทะแม่งๆ เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่น่ารอด ตอนนี้เจ้าหน้าที่รู้เบาะแสเกี่ยวกับตัวสองคนนี้แล้ว คาดว่ายังอยู่ในประเทศ

พ.ต.อ.ณษกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายภาดากล่าวอ้างว่าในช่วงที่มีข่าวขึ้นมา มีชายลึกลับโทรศัพท์มาข่มขู่นายภาดาว่าให้ระวังตัวว่ามีคนตั้งค่าหัวอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นบุคคลใด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทร.เข้ามาข่มขู่นายภาดาแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นหมายเลขแบบเติมเงิน โดยนายภาดาได้อ้างว่าบุคคลลึกลับที่โทร.มาข่มขู่ได้ตั้งค่าหัวนายภาดา และนายกิตติศักดิ์ คนละ 30 ล้าน แต่จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ยังไม่พบว่ามีกลุ่มอิทธิพลมืดเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ตำรวจก็ต้องเก็บรายละเอียดที่นายภาดาให้การไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ

พ.ต.อ.ณษกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเรียกอาจารย์ในสถาบันมาสอบเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ตรวจสอบพบว่ามีอาจารย์คนหนึ่งในสถาบันที่มีเงินโอนเข้าบัญชีก็ได้เรียกตัวมาสอบแล้ว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนตำรวจจึงได้ให้อาจารย์คนดังกล่าวนำหลักฐานมาชี้แจงเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ สำหรับอาจารย์คนนี้เราตรวจสอบแล้วพบว่าได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีประมาณ 5-6 ล้าน เป็นการโอนตรงจาก สจล. โดยอาจารย์คนดังกล่าวอ้างว่ารู้จักกับนายทรงกลด และเงินดังกล่าวนายทรงกลดนำเข้าบัญชีให้ ซึ่งก็ต้องชี้แจงที่มาที่ไปให้ได้ว่าเอาเงินไปลงทุนอะไร นายทรงกลดถึงได้โอนเข้าบัญชีให้

“ส่วนการออกหมายเรียกบุคคลอื่นๆ ในตอนนี้ตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 10 คนมาให้การเพิ่มเติมแล้ว โดยบุคคลเหล่านี้เจ้าหน้าที่พบว่าได้รับการโอนเงินเข้าบัญชี ถ้าให้การเป็นประโยชน์ก็จะทำการสอบกันไว้เป็นพยาน แต่หากให้การไม่เป็นประโยชน์หรือมีพิรุธก็จะพิจารณากันอีกที” พ.ต.อ.ณษกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. นายสุกฤษ เขียวนันใจ พนักงานฝ่ายสินเชื่อ บริษัทมัทธุจัด จำกัด เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังปรากฎรายชื่อว่ารับโอนเงิน 1 ล้านบาท ต่อจากนายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ 1 ในผู้ที่ตำรวจเชิญมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ ในคดียักยอกทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 1,494 ล้านบาท

โดยนายสุกฤษ เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้มีความสนิทสนมกับนายกิตติศักดิ์ เป็นเพียงเจ้านายกับลูกจ้างเท่านั้น โดยตนเข้ามาทำงานที่บริษัทมัทธุจัด จากการแนะนำของน้องชาย ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทอยู่ก่อนแล้ว โดยทำหน้าที่ดูแลลูกค้าด้านสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งของบริษัท มัทธุจัด และสถานบันเทิงสตรีทผับ ซึ่งที่ผ่านมานายกิตตศักดิ์ก็มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีตน แต่ละครั้งมีจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่ก็จะนำมาจ่ายค่าผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งหากทางผู้รับเหมาขอเบิกค่าก่อสร้างมา ตนก็จะมาเบิกกับนายกิตติศักดิ์อีกที โดยนายกิตติศักดิ์ไม่เคยบอกตนว่าเงินต่างๆที่นำมาจ่ายนั้นนำมาจากไหน

นายสุกฤษ กล่าวอีกว่า ผับดังกล่าวมีนายกิตติศักดิ์ เป็นหุ้นส่วนเพียงคนเดียว โดยตนไม่ทราบว่าลงทุนไปเท่าไหร่เนื่องจากตนอยู่ในส่วนงานบริหาร โดยตนเข้ามาทำงานที่บริษัทในช่วงหลังแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน นายกิตติศักดิ์ ก็ไม่เคยมีพฤติการณ์น่าสงสัย ตั้งแต่เกิดคดีความตนก็ไม่สามารถติดต่อนายกิตติศักดิ์ ได้ส่วนบริษัทก็ยังเปิดทำการตามปกติ โดยมีพนักงานบริหารงานกันเอง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำนายสุกฤษ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานไว้ประกอบสำนวนคดีต่อไป นอกจากนี้ยังมีพนักงานบริษัทมัทธุจัด คนอื่นๆ เข้าให้ปากคำกับตำรวจรวมถึงมีเจ้าหน้าของสถาบันฯดังกล่าวนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น