ASTVผู้จัดการออนไลน์-ปฏิบัติการไล่ล่าแก๊งร่วมหัวโกงสถาบันเทคโนลาดกระบังฯ ต้องลากคอ “กิตติศักดิ์ มัทธุจัด”ไฮโซกำมะลอเพื่อไขความลับคนร่วมขบวนการทั้งหมด ตำรวจเตรียมสรุปคดีเชื่อ ผอ.คลัง กับ ผจก.แบงก์คือกุญแจสำคัญ
คดีโคตรโกง 1.6 พันล้านบาทโดยมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) เป็นผู้เสียหายและกองปราบปราม สามารถตามจับผู้ต้องหาได้เกือบทั้งหมดพร้อมอายัดทรัพย์สินต่างๆมูลค่าหลายร้อยล้านบาทมีรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่าจากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาละพยานแวดล้อมทั้งหมดยังไม่มีพิรุธใดโยงไปถึงระดับบริหาร จนถึงเวลานี้พนักงานสอบสวนยังให้น้ำหนักไปที่ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีต ผอ.กองคลัง สจล. นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีต ผจก.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์และนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ไฮโซกำมะลอที่กำลังหลบหนี
มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมานายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฯที่มีหน้าที่ดูแลการของสถาบันในยุคนายถวิล พึ่งมาเป็นอธิการบดีได้เดินทางไปให้รายละเอียดกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อร่วมดำเนินการพร้อมกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม อีกทางหนี่งและเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองรวมทั้งระดับบริหารทุกคนที่อยู่ในข่ายถูกสังคมจับตาอยู่ ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากกองปราบปราม ระบุว่าหลังจากนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล.กับนายสรรพสิทธิ์ ได้มาพบพนักงานสอบสวนนับเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมากโดยเฉพาะขั้นตอนต่างๆในการบริหารเงินซึ่งในเบื้องต้นยังไม่พบความบกพร่อง หรือหละหลวมเพราะบัญชีเงินสดของทางสถาบันฯมี สตง.เข้ามาตรวจสอบทุกปีตั้งแต่ปี 2551 หลังออกจากระบบ
“คงเหลือประเด็นสอบสวนบางอย่างที่เกี่ยวพันกับนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญที่กำลังหลบหนีเชื่อว่าถ้าได้ตัวมาน่าจะเคลียร์ประเด็นต่างๆได้หมด ตอนนี้จึงมีแนวโน้มสูงว่าอาจจะเป็นฝีมือของบุคคลภายนอกที่รู้ข้อมูลและขั้นตอนต่างๆของการเบิกจ่ายเงินเป็นอย่างดี จากการยืนยันของอดีตอธิการบดีฯ และนายสรรพสิทธิ์ น้ำหนักจึงกลับไปยังน.ส.อำพร และนายทรงกลด อีกครั้ง เป็นไปได้ว่าขบวนการยักยอกเงินมีเพียงแค่นี้ ส่วนตัวละครอื่นๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องอาจจะกันไว้เป็นพยานบ้าง หรือดำเนินคดีในข้หาที่แตกต่างกันต้องขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน”แหล่งข่าวจากกองปราบปรามกล่าว
สำหรับการบริหารงานของกลุ่มนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีฯ สจล.เข้ามาทำหน้าที่ช่วงเดือน ส.ค. 2555 และนายสรรพสิทธิ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยอธิการบดีฯเมื่อเดือน ม.ค.2556 จนปีเดียวกันก็หมดวาระเพราะนายถวิล มีปัญหาเรื่องเปิดโครงการ “อัพเกรด”วุฒิปริญญาเอกให้กับ สส.พรรคเพื่อไทย และเพิ่มเกรดให้กับบุตรตนเองต่อมาพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกสภาสถาบันฯได้เรียกประชุมสภาฯลงมติ 9-4 ให้ปลดนายถวิล เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2556 ปัจจุบันมี ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ ทำหน้าที่รักษาการณ์แทน