xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจเชื่อ “กิตติศักดิ์” มันสมองแก๊งลักเงิน สจล.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัดผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
ตำรวจกองปราบฯ เตรียมเรียก พนง. ธนาคารที่เป็นประธานกรรมการสอบสวน “ทรงกลด” แก๊งลักเงิน สจล. เมื่อปี 2556 หลังธนาคารพบข้อพิรุธทางการเงิน ย้ำยังไม่รู้ว่า “บอส” คือใคร แต่เชื่อ “กิตติศักดิ์” เป็นมันสมองของแก๊ง เตรียมเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะที่เจ้าหนี้ของเจ้าของบริษัทขายอุปกรณ์การศึกษานำหลักฐานสัญญาซื้อขายอุปกรณ์วิจัยกับ สจล. มอบให้ตำรวจหาความเชื่อมโยงของคดี

วันนี้ (16 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลักเงินลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า “บอส” ที่ถูก นายภาดา บัวขาว ซัดทอดนั้นเป็นใคร ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ โดย “บอส” อาจเป็น นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด หรือ คนอื่นที่มีอำนาจเหนือกว่านั้น ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ มาให้ได้ก่อนถึงจะบอกได้ว่าขบวนการนี้มีใครเป็นหัวหน้าใหญ่ที่เรียกกันว่า “บอส” แต่ทั้งนี้ตนเชื่อว่ามันสมองของแก๊งนี้คือนายกิตติศักดิ์ เพราะเป็นคนควบคุมสั่งการทุกอย่างทั้งโอนเงิน และตั้งบริษัทเพื่อฟอกเงินที่ลักมา

ด้านแหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ทางธนาคารได้ส่งเอกสารการตรวจสอบจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้างบิ๊กซี สุวินทวงศ์ มาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบข้อสงสัยในหลายประเด็น จึงได้ทำหนังสือไปขอสอบสวนพนักงานธนาคารที่เกี่ยวข้องกับ นายทรงกลด ศรีประสงค์ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ โดยจะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เป็นประธานกรรมการสอบสวน นายทรงกลด เมื่อปี 2556 หลังธนาคารพบข้อพิรุธทางการเงินในปี 2556 เพื่อสอบถามถึงขั้นตอนการสอบสวนและเรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นางระดม มัทธุจัด แม่ของนายกิตติศักดิ์ นั้นยังไม่ติดต่อมาที่พนักงานสอบสวนว่าจะเข้าให้ปากคำวันไหนเมื่อไหร่

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.ณุมาพร พัฒนพงศธร เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วีรยุทธ ไชยสุระ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. โดยนำเอกสารหลักฐานที่อ้างว่าเป็นหนังสือสัญญาการซื้อขายชุดอุปกรณ์วิจัยและทดลองทางชีวภาพการแพทย์ ระหว่างบริษัท เอแล็บ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด กับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ซึ่งทำขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคม 2555 มูลค่า 1 ล้าน 8 แสนบาท มอบให้เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีการยักยอกเงินของ สจล. หรือไม่

น.ส.ณุมาพร กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าหนี้ของนายอภิศักดิ์ บุญเรือง ที่เป็นเจ้าของบริษัท เอแล็บฯ ก่อนหน้านี้ได้เคยทวงถามเงินคืนจากนายอภิศักดิ์ จำนวน 3 ล้านบาท แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง และเคยแจ้งความไว้ที่กองปราบปรามแล้ว ต่อมาตนได้หลักฐานเอกสารการซื้อขายนี้ของบริษัท เอแล็บฯ พบว่า ทาง สจล. ยังได้รับอุปกรณ์ไม่ครบตามจำนวนสัญญาที่ระบุไว้ ก็คิดว่าทางบริษัทเอแล็บฯ จะยังไม่ได้เบิกเงินไป ซึ่งหากมีการส่งมอบของครบตามสัญญา ตนก็เตรียมอายัดเงินในฐานะเจ้าหนี้ แต่จากการสอบถามจากฝ่ายการเงินของ สจล. พบว่าได้มีการเบิกจ่ายเงินให้บริษัทของนายอภิศักดิ์ ไปแล้วทั้งหมด

น.ส.ณุมาพร กล่าวต่อว่า ตนแปลกใจว่าทาง สจล. ซึ่งไปเป็นหน่วยงานของรัฐ น่าจะได้รับสินค้าทั้งหมดมีการตรวจรับเรียบร้อยแล้วถึงค่อยเบิกจ่ายเงิน แต่กรณีนี้กลับสั่งจ่ายเงินไปบริษัทของนายอภิศักดิ์ จำนวนเกือบ 2 ล้าน จนเวลาผ่านมา 2 ปีแล้วก็ไม่เห็นมีการตรวจสอบเลยว่าได้รับมอบของครบหรือยัง ตัวอาจารย์ที่ต้องใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวก็ยังไม่ได้ใช้ ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปทางฝ่ายการเงินของ สจล. ก็ไม่ได้รับคำตอบ ในวันนี้ก็เลยนำเอกสารมาให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบดูว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะระยะเวลาที่ทำสัญญาก็อยู่ในช่วงเดียวกันกับที่มีกรณียักยอกเงินพันกว่าล้านของ สจล. แต่จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ตนไม่ทราบ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน รับเอกสารและสอบปากคำผู้ร้องไว้ โดยจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
น.ส.ณุมาพร พัฒนพงศธร เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วีรยุทธ ไชยสุระ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. โดยนำเอกสารหลักฐานที่อ้างว่าเป็นหนังสือสัญญาการซื้อขายชุดอุปกรณ์วิจัยและทดลองทางชีวภาพการแพทย์ ระหว่างบริษัทเอแล็บ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล.
กำลังโหลดความคิดเห็น