สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ร้อง “บิ๊กโด่ง” ข้องใจรองปลัด ยธ.ค้ำประกัน “ศุภชัย” ผู้ต้องหายักยอกทรัพย์กว่า 1.2 หมื่นล้าน ขอให้เร่งรัดคดี หวั่นหมดอายุความ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 ม.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกว่า 100 คน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังจากก่อนหน้านี้นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ใช้ตำแหน่งทางราชการประกันตัวนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และพวก ผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกทรัพย์สมาชิกสหกรณ์ ความเสียหาย 1.2 หมื่นล้านบาท
นายธรรมนูญ อัตโชติ ประธานชมรมฟื้นฟูสหกรณ์คลองจั่นก้าวหน้า กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ที่มีการดำเนินคดีเมื่อปี 2556 ไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ของนายศุภชัยและพวกไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่คดีทางอาญาไม่ปรากฏว่าจะสามารถเอาผิดได้ เนื่องจากนายธวัชชัยใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาออกไป จึงทำให้กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ผู้เสียหายที่ต้องการเงินคืนไม่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือได้รับเงินคืน เพราะทางสมาชิกได้เคยขอถอนเงินออกจากสหกรณ์ดังกล่าวแต่ได้ไม่เต็มจำนวน เนื่องจากกองทุนเงินสำรอง 3 พันล้านบาทที่สหกรณ์นำมาทยอยจ่ายคืนให้มีไม่เพียงพอ
นายธรรมนูญกล่าวว่า ตนและสมาชิกจึงอยากให้ช่วยเร่งรัดดำเนินคดีอาญาต่อพวกที่ฉ้อโกงประชาชนเพื่อให้ได้รับการลงโทษตามกฎหมาย เพราะผู้ต้องหาเป็นนักธุรกิจผู้มีอิทธิพล และรู้จักคนใหญ่คนโตจำนวนมาก จึงเกรงว่าผู้ต้องหาอาจจะเข้าไปยุ่งเหยิงทางพยานหลักฐานได้
“ที่ผ่านมาผู้เสียหายเคยเข้าไปร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายศุภชัยและพวก ข้อหาฉ้อโกง ซึ่งคดีจะมีอายุความ 10 ปี แต่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเห็นว่าคดีนี้สามารถไกล่เกลี่ยเพื่อคืนเงินผู้เสียหายได้ จึงดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ซึ่งมีอายุความเพียง 3 ปี แต่จนถึงขณะนี้ได้มีการตีกลับสำนวนมาแล้วหลายครั้ง โดยระบุว่ามีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ตัวผู้เสียหายเองก็ได้เข้าไปให้ปากคำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแล้ว 3 ครั้ง แต่จนถึงขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเกรงว่าคดีจะหมดอายุความก่อน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายได้ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดคดียักยอกทรัพย์ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มูลค่าความเสียหายกว่า 1.6 พันล้านบาท สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้และคัดค้านการประกันตัว แต่คดีนี้มูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท กลับให้มีการประกันตัวได้
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่าจะเรียกผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้มาชี้แจง ซึ่งตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับเรื่องที่นายธวัชชัยได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหานั้น ตนมองว่าเป็นขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องให้ความเป็นธรรมผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม หากผู้ต้องหากระทำความผิดข้อตกลงระหว่างประกันตัว ผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ หากผู้เสียหายเกิดความไม่มั่นใจในกระบวนการสอบสวน ของพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีนี้ก็สามารถทำเรื่องถึงอธิบดีดีเอสไอ หรือปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนได้
ด้านนายธวัชชัยระบุว่า ตนและนายศุภชัยมีความสนิทสนมกันมากว่า 30 ปี เนื่องจากเคยทำงานร่วมกันมา ไม่ใช่เฉพาะกับนายศุภชัยเท่านั้น ด้านผู้เสียหายตนก็รู้จักเพราะเคยทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การที่รองปลัดกระทรวงยุติธรรมนำตำแหน่งไปประกันตัวผู้ต้องหาเนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตัดสินของศาล ผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ หากศาลตัดสินให้ผู้ต้องหามีความผิดจริงก็ต้องให้ดำเนินการไปตามคำตัดสินของศาล ยืนยันว่าไม่มีทางช่วยคนผิดให้พ้นโทษได้ สำหรับกรณีที่มองว่าตนเป็นผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม แต่กลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในขั้นตอนการดำเนินงานของดีเอสไอแต่อย่างใด
