xs
xsm
sm
md
lg

ฉาวอีก!ม.นครพนมโร่แจ้งกองปราบ อธิการบดียักยอกเงิน 30 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ดร.สมเกียรติ กสิกรานันท์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เข้าพบ ร.ต.อ.เอกรัตน์ ขวัญฤกษ์ พนักงานสอบสวน กก.3บก.ป.เพื่อเเจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม กับพวก หลังตรวจสอบพบการทุจริตในกรณีเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี และปริญญาโทนอกสถานที่ โดยไม่ขออนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย อีกทั้งยังนำเงินรายได้จากการเปิดหลักสูตรทั้งหมดประมาณ 30 ล้านบาท นำฝากเข้าบัญชีธนาคารของตัวเองจนเข้าข่ายยักยอกทรัพย์

ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สภามหาวิทยาลัยนครพนม มีมติพักงานนายสุวิทย์เป็นเวลา 90 วัน พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาตรวจสอบ กรณีจัดการเรียนการสอนเปิดหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโทนอกสถานที่ใน จ.กาฬสินธุ์ และบึงกาฬ ซึ่งไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยดังกล่าว ทั้งยังเรียกเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษาจนมีรายได้ถึง 30 ล้านบาท แถมเงินที่เรียกเก็บก็ไม่เข้าบัญชีธนาคารของมหาวิทยาลัย จึงเข้าข่ายกระทำความผิด

ส่วนดร.ไพฑูรย์ พลสนะ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ รศ.สุวิทย์ ระบุว่าคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของมหาวิทยาลัยไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาและให้มาชี้แจงเลยนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้แจ้งข้อกล่าวหา และเชิญ รศ.สุวิทย์ มาชี้แจงแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยอมมา และบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนทำให้มหาวิทยาลัยต้องแจ้งต่อกองปราบปราม

ในขณะที่รศ.สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ อธิการบดี กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องที่มหาวิทยาลัยไปแจ้งความที่กองปราบปราม ถ้ามีหมายเรียกคงจะไปรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำให้หน่วยงานราชการเสียหาย หรือ ยักยอกเงินของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ตนจะไปฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่สภามหาวิทยาลัยมาสั่งให้ตนพักงานและตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพราะเท่าที่ดูคำสั่งทั้งหมดมีหลายจุดที่ขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนต้องดูให้ละเอียดให้รอบคอบว่าจะฟ้องจุดไหนบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่และถูกฟ้องกลับได้

“ผมไม่รู้ว่าไปขัดผลประโยชน์ใครถึงได้ถูกดำเนินการเช่นนี้ ทั้งที่ในการทำงานก็ไม่เคยมีผลประโยชน์แอบแฝง ช่วงที่ผมถูกสั่งให้พักงานครั้งแรกมีข่าวว่าในมหาวิทยาลัยมีการเรียกร้องเงินเพื่อแลกกับตำแหน่งต่างๆในมหาวิทยาลัย เช่น อาจารย์ พนักงาน เป็นต้น ทำให้เป็นที่น่าจับตาว่าถ้าผมถูกออกจากกการเป็นอธิการบดีจริงจะมีใครเข้ามาแทนที่ และจะเกิดปัญหาอะไรตามมาอีกมากมาย ” รศ.สุวิทย์ กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.เอกรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและจะเร่งตรวจสอบเอกสารที่ได้รับมา จากนั้นจึงนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการ หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ รวมถึงพิจารณาขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งหากผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น