ปอศ.จับสินค้าลักลอบนำเข้า ปลอมเครื่องหมายการค้า ละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่ากว่า 20 ล้าน เผยขนจากชายแดน จ.มุกดาหาร มาส่งที่ จ.นนทบุรี ใบสำแดงกับสินค้าไม่ตรงกัน หลังจัดชุดเฝ้าระวังพื้นที่สีแดง 8 จังหวัด 25 จุด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (12 ม.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รรท.ผบช.ก. พล.ต.ต.ชวลิต แสงพืชน์ รอง ผบช.ก. รรท.ผบก.ปอศ พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภูธร ปริศนานันทกุล รองผบก.ปอศ พ.ต.อ.ณรงค์เดช กมลบุตร รรท.ผกก.2 บก.ปอศ. และพ.ต.อ.เมธี บุญสร้อย รอง ผกก.2 บก.ปอศ. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมสินค้าลักลอบศุลกากร สินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า และละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า อุปกรณ์ประดับยนต์ และอื่นๆอีกหลายรายการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายจาก สปป.ลาวเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางด่านชายแดนจ.มุกดาหาร เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าใน จ.นนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ต่อมาเวลาประมาณ 09.15 น.ของวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถบรรทุกหัวลาก ทะเบียน 70-0715 นครพนม พร้อมหางลาก ทะเบียน 70-0715 นครพนม บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข MOEU 0505030 ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง มีนายไพศาล โอฬารกิตติ อายุ 48 ปี เป็นผู้ขับ โดยใช้เส้นทางถนนกาญจนภิเษก
กระทั่งมาถึงบริเวณตรงข้ามห้างโลตัสสาขาบางใหญ่ ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น พบสินค้าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ร.บ.ศุลกากร และพ.ร.บ.สรรพสามิต หลายรายการ นอกจากนี้ยังตรวจพบว่าแหล่งที่มาของสินค้ามาจากประเทศจีน ใบขนสินค้าระบุผู้นำเข้า คือ หจก.กาล่า วิว อินเตอร์เนชั่นแนล สินค้าที่บรรจุอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่ตรงกับใบขนสินค้าขาเข้าที่สำแดงต่อศุลกากร และจากการตรวจสอบพบว่า นิติบุคลดังกล่าวได้ถูกยกเลิกจากนายทะเบียนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
นายไพศาลผู้ขับรถบรรทุกสินค้าให้การว่า ทำงานขับรถให้กับ บริษัท เจ แอนด์ เค โลจิสติก (2014) จำกัด ตั้งอยู่ที่ จ.นครพนม มาได้ไม่นานและเพิ่งขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์นี้เป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้ขับรถจากบริษัท ไปรับสินค้าจากด่านชายแดน จ.มุกดาหาร เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยไม่รู้ว่าสินค้าที่ตนบรรทุกมานั้นเป็นสินค้าผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามโดยจัดพื้นที่เฝ้าระวังไว้ได้แก่พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ (สีแดง) เป็นพื้นที่ที่มีปริมาณการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง 8 จังหวัด รวม 25 จุด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร คือ คลองถม สะพานเหล็ก บ้านหม้อ พัฒน์พงศ์ ถนนสีลม มาบุญครอง ถนนสุขุมวิท 3-9 พันทิพย์พลาซ่า จ.ชลบุรี คือ พัทยา ตลาดนัดจตุจักรชลบุรี คอมพิวเตอร์พลาซ่า จ.เชียงใหม่ คือ ไนท์พล่าซ่า คอมพิวเตอร์พลาซ่า ไอคอน ตลาดริมคำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือ หัวหิน จ.กระบี่ คือ อ่าวนาง จ.ภูเก็ต คือ หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน จ.สุราษฎร์ธานี คือ เกาะสมุย และจ.สงขลา คือ ตลาดนัดสันติสุข ตลาดกิมหยง ตลาดยงดี ตลาด บขส.
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเหลือง) มีแนวโน้มการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง 6 จังหวัด 19 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร คือ ย่านการค้าน้อมจิตต์ พาต้าปิ่นเกล้า ย่านการค้าฟอร์จูน ตลาดใหม่ดอนเมือง ย่านการค้าตะวันนา ประตูน้ำ เจ้เล้งพลาซ่า ย่านการค้าถนนข้าวสาร สะพานพุทธ จ.นนทบุรี คือ บิ๊กซีบางใหญ่ ตลาดบางศรีเมือง จ.ปทุมธานี คือ ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต จ.นครราชสีมา คือ ศูนย์การค้าเดอะมอล์ ไอทีมอลล์ ย่านการค้าเซฟวัน ศูนย์การค้าบิ๊กซี ไนท์บาร์ซ่า จ.ขอนแก่น คือ ห้างโอเอซิส และจ.ราชบุรี คือ ตลาดกำนันหลัก
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการสอบสวนขยายผลซึ่งทราบว่ายังมีอีกหลายราย หากมีความคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าหน้าที่แจ้งข้อหาสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยง อากร ข้อห้าม ข้อจำกัด อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับสี่เท่าของราคาเมื่อรวมอาหรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ นำเข้ามาราชอาณาจักรซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 110 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ หากแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้นำเข้าเป็นผู้ปลอมสินค้าเอง อาจเป็นความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ