หลังจากพาอาลีบาบา (Alibaba) บริษัทอีคอมเมิร์ชที่ปลุกปั้นมากับมือโผบินเข้าตลาดหุ้นมะกัน สร้างประวัติศาสตร์ครั้งฮือฮาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แจ็ค หม่า วัย 50 ปี เจ้าของเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์ ก็ขึ้นแท่นรวยที่สุดบนแผ่นดินมังกรทันที
มิหนำซ้ำตัวเลขรายได้ในไตรมาสสามของบริษัทยังทะลุเกินเป้าหมายที่วางไว้ 2,740 ล้านดอลลาร์ จากนั้นตอกย้ำชัยชนะอีกหนกับยอดขายสินค้าของเว็บไซต์ทีมอลล์ (Tmall.com) และเถาเป่า (Taobao.com) ใน “วันคนโสด” (Singles’ Day) เมื่อวันอังคารที่ 11 พ.ย. แตะหลัก 57,100 ล้านหยวน หรือราว 9,340 ล้านดอลลาร์
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงเป็นความมั่งคั่งอันสวยงามที่ใครหลายคนเฝ้าฝันหา แต่ไฉนเลยอภิมหาเศรษฐีคนใหม่ล่าสุดกลับคร่ำครวญ “เขาไม่มีความสุขกับการเป็นคนรวยในจีน” …?
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศซีเอ็นบีซี (CNBC) แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา เผยความในใจว่า “ฟอร์บส์ … ผมไม่แน่ใจว่านิตยสารไหนพูด ว่าผมเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในจีน … มันเป็นความเจ็บปวดทุกข์ใจอย่างยิ่ง”
“เมื่อคุณรวย ผู้คนจะมารายล้อมรอบตัวคุณเพื่อเงิน” แจ็ค หม่า อดีตคุณครูสอนภาษาอังกฤษที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจกล่าว โดยเขาเสริมว่ารู้สึกเหมือนทุกคนมองเขาอย่างแตกต่างออกไป เหมือนเซเลบคนดังมากกว่านักธุรกิจที่ต้องการรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่สนุกสนานให้ปรากฏขึ้นมา
หม่าสำทับว่า ตอนที่เขาเริ่มต้นก่อร่างสร้างอาลีบาบา เขาไม่ได้อยากหรือแม้แต่คิดว่าเขาจะทำเงินมหาศาลจากธุรกิจนี้เลย
“ผมต้องการเป็นนักธุกิจที่น่าเคารพนับถือ” หม่ากล่าว โดยหลังจากบริษัทก้าวสู่ความเป็นสาธารณะ มันไม่ใช่เรื่องของเขาเพียงผู้เดียวแล้ว เพราะความคาดหวังราคาหุ้นอาลีบาบาถีบตัวสูงขึ้นๆ ทำให้เขาต้องรับภาระความรับผิดชอบยิ่งขึ้นไปด้วย
ในการสัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (CCTV) เกี่ยวกับปรากฏการณ์ช้อปปิ้งอย่างบ้าคลั่งในวันคนโสด หม่าระบุว่า เงินรายได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา เพราะเขาห่วงระบบโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า สภาพอากาศ-จราจร และสิ่งอื่นนานาประการ ในการเตรียมพร้อมรับมือมวลมหานักซื้อมากกว่า
“ความทุกข์ใจ” ที่ตัวหม่าได้รู้สึกถึง … มันอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงบอกว่า การนำพา “ความสุข” สู่ประชาชนชาวจีนเป็นหนึ่งในความตั้งใจหลัก ที่อาลีบาบาจะไขว่คว้ามามอบให้ในสิบปีข้างหน้านี้ …
แจ็ค หม่า ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศ (คลิปฯ ยูทิวป์)