xs
xsm
sm
md
lg

ยธ.เจ้าภาพหลัก ล่าตัวแก๊งหมิ่น ม.112 กบดานในต่างแดน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“บิ๊กต๊อก” จ่อปัดฝุ่นหน่วยงานด้านความมั่นคงในรูปคณะทำงาน ดำเนินการผู้กระทำผิดมาตรทา 112 ที่อยู่ในต่างประเทศ โดยให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ

วันนี้ (22 ธ.ค.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดมาตรา 112 ที่อยู่ในต่างประเทศว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตนได้เข้าพบพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าตกลงจะให้กระทรวงยุติธรรมดูแลทั้งระบบ ขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะการติดตามนำตัวคนผิดมาลงโทษ แต่รวมไปถึงถึงเรื่องที่กระทรวงไอซีทีต้องควบคุมการเผยแพร่ข่าวสาร รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สำคัญกรณีของตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรา 112 ต้องมีการทำความเข้าใจกับต่างประเทศว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเพื่อไม่ให้นำไปแอบอ้างใช้ประโยชน์สิทธิที่จะไปอยู่ในต่างประเทศ

ส่วนลักษณะการติดตามดำเนินงานนั้น พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า คงไม่มีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพราะเข้าใจว่ามีหน่วยงานด้านความมั่นคงทำเรื่องนี้มานาน แต่เป็นในระดับปฏิบัติ ซึ่งตนจะนำมาปัดฝุ่นหรือเสริมใหม่ยกระดับทำงานเป็นระดับรัฐบาลหรือกระทรวง ในรูปแบบของคณะทำงานหรือคณะกรรมการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “เติมเต็มช่องว่าง...สร้างมิติใหม่ของกระบวนการยุติธรรม” ว่า จากข้อมูลการร้องเรียนพบว่าประชาชนกว่า 30 เปอร์เซ็นต์มาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมด้วยเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม จึงทำให้พุ่งเป้ามาที่กระทรวงยุติธรรมในการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องหลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว จึงทำให้เกิดเป็นช่องว่างของงานยุติธรรมต่อประชาชน

รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อให้บริการประชาชนและบรรเทาความเดือดร้อนได้ทันสถานการณ์ต้องนำงานยุติธรรมไปไว้ที่ชุมชนโดยสถานแรกรับต้องกระจายอยู่ในทุกจังหวัด เพื่อรองรับศาลที่มีอยู่ทุกจังหวัด รวมทั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพราะปัจจุบันสถานแรกรับกับสถานพินิจฯแต่ละแห่ง ต้องรองรับจำนวนผู้ที่ศาลมีคำพิพากษาใน 3-4 จังหวัด รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนทราบถึงสิทธิและประโยชน์จากกองทุนยุติธรรม ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนบนพื้นฐานว่าประชาชนทุกคนต้องได้รับความยุติธรรม ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้มีการวางแผนงานแก้ปัญหาต่างๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.ปี 2558

“ต้องคิดใจเขาใจเรา ถ้าเป็นญาติของเราติดคุกแค่วันเดียวก็ไม่เหมาะ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมบางคนพูดให้ผมได้ยินว่าถ้าดูแลจำนวนมาก เดี๋ยวทำให้กระทรวงฯ ต้องใช้เงินมาก ผมอยากด่าว่าการที่ต้องใช้เงินจำนวน 400-500 ล้านบาท มาช่วยเหลือประชาชนเหล่านี้ให้ได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกันไม่ว่ารวยหรือจน นั้นเทียบไม่ได้กับการที่พวกคุณทุจริตคอร์รัปชันปีละ 4-5 แสนล้านบาท” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ปัญหานักโทษที่มีจำนวนมากล้นคุกวันนี้ พูดไปพูดมากลายเป็นเรื่องปัญหายาเสพติดกันตลอดเวลา ขณะที่ผู้ต้องขังเป็นผู้มีปัญหาด้านเลื่อมล้ำรายได้หรือเป็นผู้เสพจึงรับส่งยาเป็นค่าจ้าง ดังนั้น ในอนาคตกรมราชทัณฑ์อาจต้องปรับปรุงและฟื้นฟูพฤตินิสัย รวมทั้งต้องพิจารณามองปัญหาเกี่ยวข้องยาเสพติดในมุมมองใหม่ว่าจำเป็นต้องมีการคุยกันเรื่องปรับปรุงกฎหมายว่านับจำนวนเม็ดยาเสพติดกำหนดอัตราโทษขังเหมือนเดิม หรือจะใช้กระบวนการเยียวยา

“ที่ผ่านมากลายเป็นว่า 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทั้งกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมว่าสามารถสร้างพฤตินิสัยได้ หนำซ้ำดูเหมือนว่าเป็นแหล่งเพาะอาชญากรรม ตรงข้ามกับความต้องการในการทำหน้าที่ โดยถูกมองว่าเมื่อลูกหลานเข้าคุกจากที่เป็นโจรเบอร์ 1 พอกลับออกมากลายเป็นส่งโจรเบอร์ 500 ไปให้พ่อแม่เขา” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น