ASTVผู้จัดการ - ก.ยุติธรรม จัดโครงการเชิงรุกปล่อยชั่วคราวผู้ต้องขังยากไร้ ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหรือยังเป็นผู้บริสุทธิ์และมีฐานะยากจน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 16 ราย รวมค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 4,400,000 บาท
วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีการปล่อยตัวผู้ต้องขังชั่วคราวตามโครงการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องขังที่เป็นคนยากไร้ ไม่มีเงินประกันตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในนามกระทรวงยุติธรรม เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 87 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้
นายชาญเชาวน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรมครั้งที่ 10/2557โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการเชิงรุกปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังที่เป็นคนยากไร้ ไม่มีเงินประกันตัว โดยผู้ต้องขังที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือ จากเงินกองทุนยุติธรรมในการปล่อยชั่วคราวตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยกองทุนยุติธรรม พ.ศ. 2553 ต้องเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหรือยังเป็นผู้บริสุทธิ์และมีฐานะยากจน ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการสำรวจผู้ต้องขังจากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศในการขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนยุติธรรม และกลั่นกรองตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว
โฆษกกระทรวงยุติธรรมกล่าวต่อว่า กรณีแรกในโครงการนี้ คือ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค 3 (จังหวัดเชียงใหม่) ได้รับคำร้องขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนยุติธรรมเพื่อใช้เป็นหลักประกันการปล่อยชั่วคราวจากชาวบ้านทุ่งป่าคา จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 19 ราย กรณีมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวทั้ง 19 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,300,000 บาท และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2557 กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเป็นกรณีแรกของโครงการดังกล่าว ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องขังแล้วจำนวน 16ราย รวมค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 4,400,000 บาท ยังคงเหลืออีก 3 รายที่มีอัตราโทษสูงเกินกว่าอำนาจการพิจารณาของศาลจังหวัดแม่สะเรียง โดยมีวงเงินประกันรวม 1,900,000 บาท ซึ่งศาลจังหวัดแม่สะเรียงจะต้องดำเนินการส่งให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นผู้พิจารณาสั่งปล่อยชั่วคราวต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจจำนวนผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ที่ประสงค์ขอรับการสนับสนุนและเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด มีจำนวนทั้งสิ้น 738 ราย พิจารณาไปแล้วจำนวน 471 ราย และอนุมัติ จำนวน 130 ราย เป็นผู้ต้องหาซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 12 ราย นนทบุรี 1 ราย ส่วนอีก 117 รายนั้นกระจายอยู่ในเรือนจำจังหวัดต่างๆ รวมค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้น 19,477,000บาท ซึ่งจะดำเนินการปล่อยชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2557เป็นต้นไป สำหรับจำนวนที่เหลืออีก 267 รายนั้น อยู่ระหว่างการติดตามเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
สำหรับคดีที่เข้าข่ายพิจารณาส่วนใหญ่เป็นคดีไม่ร้ายแรงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี อาทิ มีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวไม่ได้ชี้นำให้กระทำผิด หรือจะรับประกันได้ว่าจะต้องปล่อยตัวทุกราย เพราะการให้ประกันตัวยังเป็นดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งกองทุนยุติธรรมจะช่วยเหลือด้านเงินประกันและพิจารณาเป็นรายๆ ส่วนการดำเนินการทยอยปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังเรือนจำในเขตกรุงเทพมหานครจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ และจะมีการพิจารณาคำขอรับการสนับสนุนและทยอยปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนธันวาคม 2557 ในเรือนจำทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล