เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว “สนธิ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปคุมตัวต่อที่เรือนจำคลองเปรม เพื่อรอคำสั่งประกันชั่วคราวระหว่างต่อสู้คดีผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ในชั้นฎีกา ด้าน ผบ.เรือนจำยัน “สนธิ” ไม่เครียด กินอาหารเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป
ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามชั้นต้นให้จำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ฯ และ น.ส.ยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นเวลา 20 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อรอการพิจารณาของศาลฎีกาว่าจะให้ประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดีหรือไม่ หลังจากการถูกควบคุมเป็นคืนแรก ในวันนี้ทางกรมราชทัณฑ์จะได้นำตัวนายสนธิไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากมีอัตราโทษสูงเกิน 15 ปี ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าว่า การควบคุมตัวนายสนธิ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่าไม่มีปัญหา นายสนธิไม่มีอาการเครียด สามารถกินอาหารของเรือนจำได้เหมือนผู้ต้องขังทั่วไป โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้จับตาดูนายสนธิผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่รอบเรือนนอนกว่า 20 ตัว ไม่พบความเคลื่อนไหวส่อผิดปกติ ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้นำตัวจำเลยไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรมต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้ามีกลุ่มผู้บริหารและพนักงานในเครือผู้จัดการ รวมทั้งทนาย และครอบครัวของนายสนธิเดินทางเข้าเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจโดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณ 15 นาที เช่นเดียวกับที่ทัณฑสถานหญิงกลางซึ่งเป็นที่ควบคุมตัว น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ฯ และ น.ส.ยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บมจ.แมเนเจอร์ฯ ก็มีกลุ่มผู้บริหารและพนักงานในเครือผู้จัดการ รวมทั้งทนายเข้าเยี่ยมแล้วเช่นกัน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ ศาลฎีกามีคำสั่งส่งกลับมายังศาลอาญา ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนายสนธิ ลิ้มทองกุล เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ให้การรับสารภาพ ประกอบกับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทั้งคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในชั้นนี้ เมื่อยังมิได้รับอนุญาตให้ฎีกาเพราะยังไม่ยื่นฎีกา หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยที่ 1, 3, 4 จะหลบหนีจึงไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
